หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย สวมบทฮีโร่ ซัดแฮตทริก ช่วย ลิเวอร์พูล บุกมาพิชิต คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 6-3 ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
คาร์ดิฟฟ์ 3-6 ลิเวอร์พูล

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล จัดทัพชุดใหญ่ วาง หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ล่าตาข่าย โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด บัญชาเกมแดนกลาง บุกรัง คาร์ดิฟฟ์ ซิตี สเตเดียม รับมือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ซึ่งกำลังดิ้นรนหนีตกชั้น

เสียงนกหวีดดังขึ้น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ออกสตาร์ททำเกมรุกวูบวาบกว่า ก่อนปลดล็อกสำเร็จนาที 9 จังหวะ โจ อัลเลน จ่ายบอลคืนหลังถูก เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ฉกไปทางริมเส้นด้านขวา แล้วจ่ายย้อนมาให้ จอร์ดอน มัทช์ ตัดเข้าในแล้วกดด้วยซ้าย เสียบมุมเสาไกล ถัดมา ลิเวอร์พูล เริ่มจะคุมเกมอยู่หมัด และตีเสมอนาที 16 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายออกขวาให้ เกล็น จอห์นสัน ผ่านเรียดเข้ากลาง หลุยส์ ซัวเรซ เข้าฮอสเสาแรกซุกก้นตาข่าย

ในเกมที่ผลัดกันรุกและรับ กองเชียร์ เจ้าถิ่น ส่งเสียงเฮลั่นนาที 25 จอร์ดอน มัทช์ แทงทะลุช่องขึ้นหน้าให้ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หลุดเข้าเขตเขตโทษด้านขวา แล้วลากตัดเข้าในหลบ แดเนียล แอ็กเกอร์ ก่อนกดเรียดด้วยซ้ายตุงตาข่าย “หงส์แดง” กลับมาเร่งเครื่องต่อ แต่การต่อบอลยังขาดๆ เกินๆ ก่อนความพยายามสัมฤทธิ์ผลนาที 40 จังหวะเตะมุมสั้น ฟิลิปเป คูตินโญ เปิดจากกราบขวามาตรงกลาง มาร์ติน สเคอร์เทล สอดมาชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่าย ครบ 45 นาที เสมอกัน 2-2

ลุยต่อครึ่งหลัง ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มกดดันต่อเนื่อง ก่อนแซงนำนาที 54 คูตินโญ โยนเตะมุมกราบซ้ายมาให้ สเคอร์เทล โหม่งย้อนศรเสียบมุม จากนั้น รองจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก เน้นเคาะบอลสั้นเพื่อความแน่นอน และโขยกหนีไปอีกนาที 61 เกล็น จอห์นสัน เปิดจากขวาแฉลบตัวล็อกกระดอนมาเข้าเท้า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ตอกส้นเข้ากลางให้ ซัวเรซ วิ่งมาแปผ่าน เดวิด มาร์แชลล์ ตุงตาข่าย

รูปเกมเริ่มจืดๆ ลงเล็กน้อย เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีช็อตหวาดเสียวมากนัก จนกระทั่งนาที 75 “เดอะ เรดส์” มาได้ประตูย้ำชัย เกล็น จอห์นสัน ทิ้งบอลยาวข้ามฟากจากขวามาซ้าย สตีเวน โคลเกอร์ โหม่งสกัดโดนเฉือนๆ ซัวเรซ ตามมาเก็บตรงเขตโทษด้านซ้าย แล้วผ่านเรียดมาให้ สเตอร์ริดจ์ แปจ่อๆ ซุกก้นตาข่าย ก่อนหมดเวลา 2 นาที “เดอะ บลูเบิร์ดส” จุดประกายความหวัง โยนจากกราบขวามาเสาสอง เคนวิน โจนส์ ตัวสำรอง โหม่งชงเข้ากลางให้ มัทช์ โขกตุงตาข่าย

ทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา กลับมาคึกคัก โหมบุกโดยอาศัยการโยนยาวไปลุ้นในเขตโทษ แต่กลับมาเสียเพิ่มช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย สเคอร์เทล ทิ้งยาวมาให้ ซัวเรซ หลุดมาล่อเป้าทางเขตโทษด้านซ้าย ก่อนแปเสียบมุมเสาไกล จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะไป 6-2 เก็บเพิ่มเป็น 65 แต้ม จาก 30 นัด ตาม เชลซี 4 แต้ม เท่าเดิม แต่ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริง
คาร์ดิฟฟ์ : เดวิด มาร์แชลล์ , สตีเวน โคลเกอร์ , คาลา , เควิน ธีโอไพล์ แคเธอรีน , ดีแคลน จอห์น , แกรี เมเดล , คิม โบ คยุง , ฟาบิโอ , เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ , จอร์ดอน มัทช์ , เคร็ก เบลลามี
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , จอห์น ฟลานาแกน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ฟิลิปเป คูตินโญ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , โจ อัลเลน , หลุยส์ ซัวเรซ , แดเนียล สเตอร์ริดจ์

ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม

เอฟเวอร์ตัน 3-2 สวอนซี
[1-0 เลห์ตัน เบนส์ (จุดโทษ) น.19 , 1-1 วิลเฟร็ด โบนี น.33 , 2-1 โรเมลู ลูกาคู น.52 , 3-1 รอสส์ บาร์คลีย์ น.58 , 3-2 แอชลีย์ วิลเลียมส น.90+2]

ฮัลล์ ซิตี 2-0 เวสต์บรอมฯ
[1-0 เลียม โรซีเนียร์ น.32 , 2-0 เชน ลอง น.37]

แมนฯ ซิตี 5-0 ฟูแลม
[1-0 ยาย่า ตูเร (จุดโทษ) น.25 , 2-0 ยาย่า ตูเร (จุดโทษ) น.54 , 3-0 ยาย่า ตูเร น.64 , 4-0 แฟร์นันดินโญ น.84 , 5-0 มาร์ติน เดมิเชลิส น.88]

นิวคาสเซิล 1-0 คริสตัล พาเลซ
[1-0 ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ น.90+4]

นอริช 2-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 โรเบิร์ต สนอร์ดกราสส์ น.20 , 2-0 อเล็กซานเดอร์ เต็ตเตย์ น.31]