ดิ มาเรียปล่อยของ! ยิง1จ่าย3 พาฟ้าขาวถอนแค้นอินทรีเหล็กอยู่หมัด 4-2
ปีกติดไนตรัสตัวใหม่ของทีมปีศาจแดง โชว์ฟอร์มสุดสะเด่าหลังเหมา 3 แอสซิสต์บวกกับยิงเอง 1 ประตู ช่วยบ้านเกิดคิดบัญชีแค้นถล่มแชมป์โลกไปแบบราบคาบ
โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน จัดทัพชุดผสมระหว่างนักเตะที่ไม่ได้ไปฟุตบอลโลกกับชุดใหญ่ วางมาริโอ โกเมซ เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย โดยมีมาร์โก้ รอยส์ สนับสนุนอยู่ด้านหลัง ส่วนปีกสองข้างใช้จูเลียน ดรักซ์เลอร์ จับคู่กับอังเดร ชูร์เล ขณะที่ปลอกแขนกัปตันทีมเกมนี้ตกเป็นของมานูเอล นอยเออร์
ด้านอาร์เจนตินาของกุนซือคนใหม่อย่าง “ตาต้า” เกราร์โด้ มาร์ติโน เกมนี้ขาดเพียงลิโอเนล เมสซี ที่มีอาการบาดเจ็บเพียงคนเดียว นอกนั้นใส่เต็มสูบ นำโดย มาร์กอส โรโฆ, เอริค ลาเมลา, ฮาเวียร์ มาสเคราโน, อังเคล ดิ มาเรีย และหน้าเป้าเป็นเซร์คิโอ อเกวโร
เริ่มเกมมาเพียง 7 นาที ทัพอินทรีเหล็กได้โอกาสทักทายแบบจะๆก่อนเลย จากจังหวะที่คริสโตฟ คราเมอร์ งัดบอลทะลุช่องให้มาริโอ โกเมซ หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษและบรรจงหวดตูมเดียวด้วยขวาเต็มข้อ ทว่าโรเมโร นายด่านฟ้าขาวยังยืนตำแหน่งดีทุบบอลออกหลังไปได้แบบสบายๆ
แต่แล้วนาทีที่ 20 กลับเป็นอาคันตุกะจากแดนละตินอเมริกาที่เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรีย ปีกป้ายแดงแมนฯยูฯเปิดไซร์เข้าไปในเขตโทษให้เซร์คิโอ อเกวโร กระโดดแปด้วยขวาเน้นๆเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่มานูเอล นอยเออร์ นายประตูเยอรมันทำได้เพียงแค่เซฟด้วยสายตา
ถัดมาเป็นโอกาสลุ้นประตูของเจ้าบ้านอีกครั้ง จากจังหวะความผิดพลาดของมาร์ติน เดมิเคลิส เซ็นเตอร์ฟ้าขาวที่สะดุดบอลล้ม จนถูกมาร์โก้ รอยส์ ฉกไปได้ก่อนไหลถวายพยานให่โทนี โครส ยิงหักข้อด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 25 หลาส่งบอลพุ่งถากเสาสองออกหลังไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว
นาทีที่ 27 เยอรมันพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปอย่างเหลือเชื่อ เมื่อคริสโตฟ คราเมอร์ โชว์ความสามารถพิเศษล่อหลอกกองหลังฟ้าขาวบริเวณหน้าเขตโทษอยู่หลายจังหวะ ก่อนหาช่องจ่ายให้กับมาร์โก้ รอยส์ ปาดทะลุช่ิองเร็วให้มาริโอ โกเมซ ล่อเป้าเน้นๆจากระยะประมาณ 5 หลา ทว่ากลับยิงติดขาโรเมโร อย่างเหลือเชื่อ
หลังจากบุกอยู่นานและทำประตูคู่แข่งไม่ได้ ทำให้นาทีที่ 39 เยอรมันถูกอาร์เจนหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่อังเคล ดิ มาเรีย เลี้ยงไปสุดเส้นทางฝั่งขวาก่อนเปิดย้อนมาตรงหัวกระโหลกให้เอริค ลาเมลา เอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับส่งบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปอย่างสุดสวย และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึง 3 นาที (นักเตะบางคนแทบยังไม่โดนบอล) ทีมเยือนมาได้ประตูทิ้งห่าง จากจังหวะลูกฟีคิกทางกราบซ้าย และเป็นอังเคล ดิ มาเรีย ที่รับหน้าที่เปิดโค้งเข้าไปในเขตโทษทางเสาสองให้เฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ โขกเน้นๆเต็มศรีษะส่งบอลเช็ดเสาเข้าประตูไปไม่เหลือ อาร์เจนฯทิ้งห่างเป็น 3-0
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 50 อังเคล ดิ มาเรีย ปล่อยของอีกครั้ง หลังเลี้ยงหลุดเดี่ยวเข้ามาในเขตโทษก่อนชิฟอย่างเหนือชั้นส่งบอลข้ามหัว โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวารสำรองเข้าไปนอนจมก้นตาข่าย อาร์เจนฯทิ้งไปไกลเป็น 4-0
จากนั้นเจ้าบ้านเริ่มโหมบุกเอาใจแฟนบอลตัวเองมากขึ้น กระทั่งนาทีที่ 52 พวกเขาก็มาได้ประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย และเป็นมาร์โก้ รอยส์ ที่ัรบหน้าที่เปิดมาในเขตโทษให้อังเดร ชูร์เล แปด้วยซ้ายไปติดตัวโรเมโร ก่อนกระดอนมาเข้าทางชูร์เล อีกครั้งและตามซ้ำง่ายๆเข้าไป เยอรมันไล่มาห่างๆ 1-4
นาทีที่ 75 เยอรมันเกือบมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่มาริโอ เกิทเซ แตะคืนให้มาร์โก้ รอยส์ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งนเสาไกลเสียงดังสนั่นก่อนกระดอนออกข้างไป พลาดโอกาสได้ประตูตีตื้นไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วความพยายามของเจ้าบ้านก็มาประสบความสำเร็จ ในนาทีที่ 77 จากจังหวะที่โรเมโร นายด่านฟ้าขายเคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทางมาริโอ เกิทเซ วอลเลย์ด้วยซ้ายจากเส้นกรอบเขตโทษส่งบอลพุ่งแฉลบขาเฟเดริโก้ เฟอร์นันเดซ เปลี่ยนทางเสียบเสาเข้าประตูไป เยอรมันไล่มาอีกเล็กๆเป็น 2-4
จากนั้นช่วงท้ายเกมเยอรมันพยายามโหมบุกอีกครั้ง แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกมอาร์เจนตินาบุกถล่มเยอรมันยับเยิน 4-2 ถอนแค้นจากการพ่ายแพ้ในนัดชิงฟุตบอลโลกแบบเจ็บแสบเลยทีเดียว
ที่มา: GOAL
ขอบคุณเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามบล๊อกแทงบอลออนไลน์https://www.icersoccer.com มาโดยตลอดครับ หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจในฐานะเพื่อนๆวงการบอลเหมือนเช่นนี้ตลอดไปครับ ขอบคุณครับ