บทสรุปพรีเมียร์ลีก 2013-14 #1
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ มาส่งท้ายปิดฤดูกาลกันหน่อยดีกว่าครับ ว่าผลการแทงบอลของพวกเราเป็นไงกันบ้านครับ
สิงหาคม
พรีเมียร์ลีก 2013-14 เริ่มต้นในแบบที่เราคุ้นเคย แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าเริ่มต้นยุคใหม่ภายใต้การควบคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ด้วยการคว้าโล่คอม มิวนิตี้ ชิลด์ หลังถล่มสวอนซี 4-1 หนึ่งสัปดาห์ก่อนฤดูกาลปิดฉาก
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ แดนนี่ เวลเบ็ค เหมาคนละ 2 ในชัยชนะเกมนั้น แต่พวกเขาก็ต้องเจองานยากในเกมที่ 2 ของซีซั่น และลงเอยด้วยการเสมอเชลซี 0-0 ที่ดอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นความย่ำแย่แบบเป็นซีรีส์ของผีแดงยามเฝ้ารัง
สวนทางกลับสิงห์บลูส์ที่ได้รับ โชเซ่ มูรินโญ่ คัมแบ็กกลับมาคุมอีกครั้ง พวกเขาคว้าชัยได้หมดจาก 2 เกมแรก พร้อมขึ้นนำจ่าฝูง ออสการ์ และ แฟร้งค์ แลม พาร์ค ยิงคนะละตุงในชัยชนะ 2-0 เหนือ อํลล์ ซิตี้ ก่อนเชือดแอสตัน วิลล่า 2-1 ใน 4 วันต่อมา
ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส เป็นแค่ 2 ทีมที่มีสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนสิงหาคม เมื่อ เบรนแดน ร็อด เจอร์ส คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยม ขณะที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ก็ขยับขึ้นมาแจ้งเกิดในระหว่างที่ หลุยส์ ชัวเรซ ติดโทษแบนจากซีซั่นก่อน ด้วยการยิงประตูสำคัญให้ทีมในชัยชนะ 1-0 ได้หลายเกม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็น 1 ในแข้งยอดเยี่ยมตลอดซีซั่นนี้
ส่วนไก่เดือยทองแม้จะผลงานดีเหมือนกัน แต่ยังไม่มีใครเชื่อน้ำยาว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ หลังบุกชนะ คริสตัน พาเลซ และเปิดรังเชือดสวอนซี โดยต้องพึ่งจุดโทษของ โรเบร์โต้ โซลดาโต้
เอวีบีพยายามใช้เงินก้อนมหาศาลที่ได้จากการขาย แกเร็ธ เบล ไปให้เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์สร้างทีมขึ้นมา แต่ก็ดูเหมือนว่ามันไม่เวิร์กเอาเสียเลย
ส่วนเอฟเวอร์ตันซึ่งเริ่มต้นยุคใหม่เช่นกันกับ การได้ โรเบร์โต้ มาร์ติเนช เข้ามารับงานต่อจากมอยส์ พวกเขาออกสตาร์ตได้ไม่ดี เมื่อเจ๊ารวด 3 เกมแรก แต่เมื่อ รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ เชมัส โคลแมน ต่างพังประตูนกขมิ้น ก็เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่าทอฟฟี่แอบมาแบบเงียบๆ เหมือนกัน
ช่วงปลายเดือน การตะลุยยูโรปา ลีก ของหงส์ขาว ทำให้พวกเขาเล่นเกมลีกไปแค่ 2 เกมเท่านั้น แถมไร้แต้ม นั่งอมบ๊วยอยู่ท้ายตาราง โดยมี เวสต์บรอมวิช และ ซันเดอร์แลนด์ ที่มีแค่ทีมละแต้มอยู่เป็นเพื่อนในโซนสีแดง เดือนนี้ก๊วนแทงบอลออนไลน์ของผมยังไม่เล่นกันเท่าไหร่ครับ เล่นกันเบาๆขำๆ
กันยายน
ด้วยแข้งใหม่ที่ย้ายเข้ามาในวันสุดท้ายของตลาดพอดีอย่าง เมซุด โอซิล และการกลับมาเกิดใหม่ของ อารอน แรมซี่ย์ ทำให้อาเซน่อลละเบิดฟอร์ม พร้อมขึ้นมานำฝูงในช่วงเดือนที่ 2 ของซีซั่น พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเชือดคู่แค้นตลอดกาลอย่างสเปอร์ส 1-0 ก่อนจะกวาดชัยชนะอีก 3 เกม โดยที่แรมซี่ย์กดไป 8 เม็ด จาก 9 เกม รวมทุกรายการ ทำให้การเปิดฉากด้วยความพ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลล่า ถูกลืมไปหมดเลย
แตกต่างจากยูไนเต็ด เพราะการชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 คือการเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นำแค่เกมเดียวของพวกเขาในเดือนนี้ เพราะอีก 3 เกมที่เหลือแพ้รวด ไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ดาร์บี้กับซิตี้, “แดงเดือด” ขบวนแรกที่ออกไปเยือนลิเวอร์พูล ปิดท้ายด้วยการโดนเวสต์บรอมวิชสอยคาบ้าน
นอกจากนี้ พวกเขายังพลาดการได้ตัว อันเดร เอร์เรร่า ในวันปิดตลาด ทำให้ต้องรีบไปคว้า มารูยาน เฟลไลนี่ ลูกน้องเก่าของมอยส์ที่เอฟเวอร์ตันมาแทน ซึ่งบทสรุปก็อย่างที่เห็น คือเป็นการซื้อที่ผิดพลาดอย่างมหันต์
สำหรับ เชลซี และ แมนฯซิตี้ ถือว่าเป็นเดือนที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สิงห์บลูส์พ่ายทอฟฟี่ก่อนจะเสมอกับสเปอร์ส ซึ่ง โชเซ่ มูริสโญ่ ได้ดวลกับอดีตลูกน้องอย่างอันเดร วิลลาช – โบอาช
ส่วนเรือใบของ มานูเอล เปเยกรีนี่ การพลิกแพ้แอสตัน วิลล่า 2-3 ที่วิลล่า พาร์ค บดบังความดีงามจากชัยชนะในศึกผ่าเมืองไปเสียหมด แถมยังทำอะไรสโต๊คซิตี้ ไม่ได้อีกด้วย
ขณะที่ลิเวอร์พูลก็มีเป๋ไปบ้าง หลังมีชัยที่โอลต์แทร็ฟฟอร์ต หงส์แดงเจ๊าหงส์ขาว 2-2 ก่อนจะแพ้เซาธ์แฮมป์ตันคาแอนฟิลต์ ซึ่งชัยชนะเกมนั้นของนักบุญ ทำให้พวกเขามีแต้มห่างจากโซนท็อปโฟร์แค่แต้มเดียวเท่านั้นหลังจบเดือนกันยายน
ทว่าหงส์แดงฟื้นตัวได้เร็ว ซัวเรซพ้นโทษแบนมาในเกมสุดท้ายของเดือนพอดี ก่อนจะประเดิมซีซั่นใหม่ด้วยการเหมา 2 ตุงใส่ซันเดอร์แลนด์ บวกกับเสตอร์ริดจ์อีก 1 ตุง ทำให้ถล่มแมวดำไป 3-1 ซึ่งเป็นจุดเริ่มฉายา “เอสเอเอส” ของหัวหอกคู่นี้
สำหรับแมวดำ พวกเขาเล่นเกมนั้นโดยที่เปาโล ดิ คานิโอ กลายเป็นอดีตกุนซือไปแล้ว แต่ที่แย่กว่าคือ 5 เกมแรกชนะไม่เป็นเลย ทำให้ส่อแววว่าอาจเป็นทีมแรกที่ต้องบ๊ายบาย
ซันเดอร์แลนด์ลงมาคลุกฝุ่นโดยมี ฟูแล่ม ของมาร์ติน โยล และ คริสตัล พาเลซ ของ เอียน ฮอลโลเวย์เป็นเพื่อน
ตุลาคม
เชลซีมุดกลับมาอยู่ในท็อปโฟร์อีกครั้ง ด้วยชัยชนะ 3 เกมติดในเดือนนี้ ทีมของมูรินโญ่ซี่ดวงมาตลอดอย่างประตูของ ซามูเอล เอโต้ ที่ไปฉกมาจากความผิดพลดของ เดวิด มาร์แชลล์ นายทวารคาร์ดิฟฟ์ ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็หักปีก บลูเบิร์ดส และนอริชอย่างสบายๆ ก่อนจะต่อยอดฟอร์มอันยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะในบิ๊กแมตซ์ กับซิตี้ที่เอติฮัต
ส่วนอาร์เซน่อลก็มีสะดุดเล็กน้อยในการออกไปเยือนเวสต์บรอมวิช ซึ่งได้ประตูจาก แจ็ค วิลเชียร์ มาช่วย เชฟได้ ก่อนที่ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษจะยิงประตูสำคัญให้ทีมชนะนอริช ก่อนที่พาเลซจะเป็นเหยื่อรายต่อไป ส่งผลให้ดิอีเกิลส์ หล่นไปเป็นบ๊วยในเดือนนี้ โดยไร้แต้มตลอดทั้งเดือน
ยูไนเต็ดยังแย่ยามเฝ้ารังอย่างต่อเนื่อง อดัม ลัลลาน่า ยังตีเสมอให้นักบุญเก็บแต้มในช่วงท้ายเกมพร้อมขยับไปอยู่ที่ 5 ของตาราง ทว่าผีแดงก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องแย่ๆ การปรากฎกายของ อั๊ดนาน ยานาไซ ไอ้หนูหลายเชื้อชาติ สร้างความตื่นตะลึงได้ไม่น้อยกับ 2 ประตู ที่ตะบันใส่ซันเดอร์แลนด์
แมวดำสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง แต่พอได้กุนซือใหม่มาเป็น กัส เยต์ พวกเขามีฮึดขึ้นมาทันนที หลังคว้าชัยในศึกไทน์-เวียร์ ดาร์บี้ เหนือนิวคาสเซิ่ล 2-1 เดือนนี้ก๊วนแทงบอลของผมเล่นกันเต็มที่ละครับ ฮ่าๆ
พฤศจิกายน
เป็นเดือนที่น่าจดจำของอาเซน่อล พวกเขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้ท้าชิงตัวจริง ชนะทั้งลิเวอร์พูล และเชาธ์แฮมป์ตันด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนจะถล่มคาร์ดิฟฟ์ 3-0 ด้วย 2 ประตูของแรมซี่ย์ ทำให้เขาทิ้งทีมอันดับ 2 มากถึง 7 แต้ม
จริงๆ ระยะห่างน่าจะถูกถ่างออกมากว้างกว่านั้น ถ้า ริน ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ตามมาหลอนทีมเก่าด้วยการยิงดับปืนโต ซึ่งนั้นเป็นแค่เกมแรกในยุคของมอยส์
ขณะที่นิวคาสเซิ่ลก็แรงไม่แพ้กัน พวกเขากระโดดขึ้นจากตารางมาอยู่ที่ 5 หลังกวาดชัยชนะติดกัน 4 นัด ทั้งการหยุดสถิติชนะรวด 6 นัดเชลซี และบุกคว่ำสเปอร์สที่เดอะ เลน โดย ทิม ครูล โชว์ชูเปอร์เชฟนับ 10 ครั้ง
ส่วนเรือใบ พวกเขาเดินหน้ายิงสลุตเป็นชุดๆ เปิดบ้านถล่มนอริช 7-0 แม้จะคั่นออกไปพลิกแพ้ แมวดำ 0-1 แต่ก็กลับมาตีได้ทันทีด้วยการทะลวงสเปอร์สครึ่งโหล หลังพักเบรกทีมชาติ
ด้านลิเวอร์พูลและซัวเรซก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาถล่มฟูแล่ม 4-0 ก่อนบุกไปเสมอทอฟฟี่สุดมันส์ 3-3 ซึ่งกลายเป็น 1 ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ที่น่าจดจำ
ฟูแล่มสร้างสถิติอันเลวร้ายให้ตัวเองด้วยผลงานการออกสตาร์ตที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยเก็บไม่ได้แม้แต่แต้มเดียวในเดือนนี้ ก่อนที่เกมสุดท้ายของเดือนจะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของโยล เมื่อออกไปโดนค้อนทุบเละ 0-3 กุนซือดัตช์โดนเด้งก่อนตั้งเพื่อนร่วมชาติอย่าง เรเน่ มิวเลนสตีน ซึ่งเป็นมือขวาอยู่ก่อนแล้วขึ้นมาแทน แทงบอลรับทรัพย์กันเต็มๆเลยคร๊าบบ
ธันวามคม
เดือนสุดท้ายของปี 2013 เป็นแมนฯ ซิตี้ ที่ผลงานโฉบเฉี่ยวกว่าใครเพื่อน พวกเขากวาดถึง 19 จาก 21 แต้ม และทะลวงตาข่ายอย่างน้อย 3 เม็ดต่อเกม ไล่ตั้งแต่ทะลวงหงส์ขาว 3-0, เชือดหงส์แดง 2-1 และยำใหญ่จ่าฝูงอย่างปืนโต 6-3
มีเพียงนักบุญที่แย่งแต้มจากพวกเขาได้มนเกมที่เสมอ 1-1 ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงไกลของ ปาโบล ออสวัลโด้ แต่โอกาสไปเล่นยุโรปของนักบุญก็เหลือน้อย เพราะเก็บได้แค่ 5 แต้มตลอดทั้งเดือน
สถานะการเป็นจ่าฝูงของอาเซน่อลเริ่มไม่มั่นคง เมื่อระยะห่างถูกตัดลงมาเหลือแค่แต้มเดียว หลังโดนเอฟเวอร์ตันตีเสมอในช่วงท้ายเกม และเสมอเชลซี 0-0 ในเกมที่สุดน่าเบื่อประจำซีซั่น
แต่คู่แค้นร่วมลอดดอนเหนือของพวกเขากลับแย่ไปกว่า โบอาชโดนเด้งทันทีหลังสเปอร์สโดนหงส์แดงบุกมายำที่เดอะ เลน 0-5 ทิม เชอร์วู้ด ถูกแต่งตั้งขึ้นมารับงานแทนในสัญญาระยะสั้น 18 เดือน แถมเริ่มต้นได้ดีทีเดียว เพราะมีแค่ซิตี้และเชลซีเท่านั้น ที่เก็บแต้มได้มากกว่าไก่เดือยทองในเดือนนี้
ในโซนล่าง สตีฟ คล้าร์ก กลายเป็นอดีตกับ เดอะ แบ็กกี้ส์ ไปเช่นกัน หลังผลงานแย่ติดๆ กัน ไม่ต่างจากคาร์ดิฟฟ์ที่ มัลกี้ แม็คคาย มีอันต้องตกงาน หลังมีปัญหาระหองระแหงกับ วินเซนต์ ทาน เจ้าของชาวมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง มาต่อกันวันพรุ่งนี้นะครับ เมื่อยนิ้วน่าดูเลยไม่ไหวครับ พรุ่งนี้อย่าลืมแวะเข้ามาดูบล๊อกแทงบอลออนไลน์แห่งนี้ด้วยนะครับ