บัวเต็งยิงท้าย! เสือใต้ จม เรือ1-0, สิงห์ ทื้อเจ๊า ชาลเก 1-1
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เก็บ 3 คะแนนประเดิมศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้ เจอโรม บัวเต็ง ยิงประตูชัยนาทีสุดท้ายช่วยทีมเปิดบ้านเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-0 ขณะที่ เชลซี จบไม่ลงโดน ชาลเก ไล่กวดยันเสมอ 1-1…
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2014-15 เมื่อวันพุธที่ 18 ก.ย. เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ของ กลุ่ม อี,เอฟ,จี และ เอช คู่ไฮไลท์ของวัน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ทีมแกร่งจากเยอรมนี เปิดสนาม อัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากอังกฤษ
เป็ป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ของบาเยิร์น มีปัญหาเรื่องการจัดทีมพอควรหลังจากที่สมาชิกส่วนใหญ่มีอาการเจ็บ โดยแมตช์นี้แนวรุกใช้งาน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ลงประสานงานล่าตาข่ายร่วมกับ มาริโอ เกิทเซ และ โธมัส มุลเลอร์ ส่วน “เรือใบสีฟ้า” ไร้ มานูเอล เปเยกรินี ลงคุมทีมข้างสนามเนื่องจากติดโทษแบน แต่สภาพทีมค่อนข้างพร้อมส่ง เอดิน เชโก เป็นความหวังจบสกอร์ ขณะที่แดนกลางมี ซามีร์ นาสรี,ยาย่า ตูเร,แฟร์นันโด และ ดาบิด ซิลบา
เปิดฉากไม่ถึงนาที บาเยิร์น หวิดขึ้นนำจากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี จ่ายทะลุช่องเข้ากรอบเขตโทษให้ โธมัส มุลเลอร์ โฉบเข้ารับแตะหลบ โจ ฮาร์ท แล้วซัดจ่อๆเข้าข้างตาข่ายพลาดประตูไปอย่างเหลือเชื่อ
รูปเกมออกมาสูสีแต่กลายเป็นเจ้าถิ่นที่เกือบได้เฮ ใน น.19 มาริโอ เกิทเซ ครอสบอลจากขวาเข้ากลางเขตโทษให้ มุลเลอร์ สะบัดหัวโขกเน้นๆ แต่ โจ ฮาร์ท ปฏิกิริยาไวปัดบอลข้ามคานไปอย่างหวุดหวิด หลังจากนั้น 3 นาที ทีมเยือนได้ลองบ้าง เอดิน เชโก มีโอกาสได้ยิงระยะ 15 หลาแต่บอลโค้งหลุดเสาสองไปนิดเดียว
น.32 “เสือใต้” ได้เสียว โธมัส มุลเลอร์ แตะบอลไปหน้าเขตโทษให้ ดาบิด อลาบา วางเท้าซัดด้วยซ้ายระยะ 25 หลา บอลพุ่งเรียดเข้าหาตัว โจ ฮาร์ท โดนทุบออกมาได้ และในช่วงเวลาที่เหลือ บาเยิร์น ที่ทำเกมบุกได้มากกว่า ก็มีโอกาสลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง ขาดเพียงจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่เด็ดขาด ส่งผลให้จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปก่อน 0-0
มาต่อในครึ่งหลัง น.56 แมนฯซิตี้ ตัดสินใจแก้เกมส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน ซามีร์ นาสรี และหลังจากนั้นก็เป็นพี่เสือที่โหมเกมบุกหนักขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ยังหาจังหวะยิงเน้นๆไม่ได้
จนมาถึง น.71 “เรือใบ”หวิดพังหลัง โจ ฮาร์ท รับลูกยิงไกลของ ราฟินญา ไม่อยู่บอลทะลักออกมาเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ วิ่งไปซ้ำจังหวะสองแต่ไม่พ้นตัวนายด่านแมฯซิตี้โดนปัดทิ้งออกไปได้แถมยังถูกจับล้ำหน้า และหลังจากนั้น 3 นาที ทีมเยือนก็แก้เกมอีกครั้งส่ง เซร์คิโอ อเกวโร ลงมาแทน เอดิน เซโก ขณะที่เจ้าถิ่นก็มีขยับเปลี่ยนตัวตามใน น.76 ส่ง อาร์เยน ร็อบเบน ลงมาแทน โธมัส มุลเลอร์
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย “เสือใต้” ที่พับสนามบุกใส่เกือบได้จุดโทษหลัง แฟร์นันดินโญ ไปเบียด อาร์เยน ร็อบเบน ล้มแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร และจากนั้นยังเป็น บาเยิร์น ที่ขึงเกมบุกต่อจนมาทำสำเร็จในนาทีสุดท้ายก่อนเข้าช่วงทดเจ็บหลัง เจอโรม บัวเต็ง มีจังหวะได้ซัดบอลไปแฉลบผ่านมือ โจ ฮาร์ท พุ่งหายเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้จบการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-0 เก็บ 3 คะแนนไปครอง
รายชื่อ 11 ตัวจริง
บาเยิร์นฯ : มานูเอล นอยเออร์,เมห์ดี เบนาเตีย,ราฟินญา,เจโรม บัวเต็ง,ฆวน เบร์นาต,ชาบี อลอนโซ,ฟิลิิปป์ ลาห์ม,ดาบิด อลาบา,โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี,มาริโอ เกิทเซ
แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท,บาการี ซานญา,แวงซองต์ กอมปานี,กาแอล กลิชี,มาร์ติน เดมิเคลิส,ซามีร์ นาสรี,เฆซุส นาบาส,ดาบิด ซิลบา,แฟร์นันโด,ยาย่า ตูเร,เอดิน เซโก
ด้านเกมที่น่าสนใจ ในกลุ่ม จี “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมจากอังกฤษ เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก 04 ทีมจากเยอรมนี
เปิดฉากเพียง 10 นาที เชลซี ก็ยิงประตูขึ้นนำ 1-0 หลัง เชส ฟาเบรกัส ปั้มแย่งบอลจากแนวรับทีมเยือน ลูกไหลมาเข้าทาง เอเดน อาซาร์ด พาจี้เข้ากรอบเขตโทษแล้วเลือกจ่ายไขว้ต่อให้ ฟาเบรกัส หลุดมาด้านซ้ายก่อนแล้วยิงแสกหน้า ราล์ฟ แฟร์มันน์ นายด่านชาลเก เข้าไปตุงตาข่าย
รูปเกมส่วนใหญ่เป็นเชลซีที่เหนือกว่าจนมีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มใน น.36 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ตวัดบอลจากริมเส้นฝั่งขวามาให้ เชส ฟาเบรกัส วางเท้ายิงโล่งๆแต่บอลโด่งข้ามคาน และในช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนั้นทั้งสองทีมก็ยังไม่มีประตูเพิ่มเติมจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
กลับมาครึ่งหลัง น.62 ชาลเก ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะสวนกลับ จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ ลากบอลลุยมาจากกลางสนามก่อนจะปาดไปทางซ้ายให้ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ จับยิงหักข้อเข้าไปซุกก้นตาข่าย
แม้ว่ารูปเกมจะเป็น เชลซี ที่เหนือกว่าแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่เด็ดขาดจนมาถึง น.76 ก็มีโอกาสทองได้ลุ้นประตู เชส ฟาเบรกัส เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ ราล์ฟ แฟร์มันน์ ปัดบอลออกมาเข้าทาง โลอิก เรมี ยิงแต่ โรมัน นอยซเตดเทอร์ ที่ยืนคุมเส้นโขกสกัดทิ้งออกไปได้ และหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ ชาลเก ไป 1-1
ส่วนเกมที่สำคัญในกลุ่ม เอฟ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่จากสเปน เปิดสนาม คัมป์นู สเตเดียม เอาชนะ อาโปเอล นิโคเซีย ทีมจากไซปรัส ไป 1-0 โดยมาได้ประตูชัยใน น.28 จาก เกราร์ด ปิเก.
บาร์เซโลนา ชนะ 1-0
สรุปผลฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม อี
โรมา (อิตาลี) 5-1 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
กลุ่ม เอฟ
บาร์เซโลนา (สเปน) 1-0 อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส)
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 1-1 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
กลุ่ม จี
เชลซี (อังกฤษ) 1-1 ชาลเก 04 (เยอรมัน)
มาริบอร์ (สโลวีเนีย) 1-1 สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส)
กลุ่ม เอช
ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 6-0 บาเต บอริซอฟ (เบลารุส)
แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 0-0 ชัคตาร์ โดเนสท์ค (ยูเครน)
ขอบคุณเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามบล๊อกแทงบอลออนไลน์https://www.icersoccer.com มาโดยตลอดครับ หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจในฐานะเพื่อนๆวงการบอลเหมือนเช่นนี้ตลอดไปครับ ขอบคุณครับ