เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดีหลังโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี คู่อริบุกถล่มคาบ้าน 3-0 ศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี คืนวันที่ 25 มีนาคม ด้าน มานูเอล เปเยกรินี นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” ชี้ “ผีแดง” มีโอกาสมากกว่าแต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เอง

เอดิน เซโก ดาวยิงของ ซิตี จัดการซัดลูกแรกภายในเวลา 43 วินาทีของครึ่งแรก ก่อนจะมาเบิ้ลอีกลูกในครึ่งหลัง และได้ ยายา ตูเร ซัดประตูชัยทำให้ ซิตี ขยับขึ้นรองจ่าฝูง ตาม เชลซี 1 แต้ม ส่วน “ผีแดง” สะดุดแพ้อีกครั้งจนแทบหมดโอกาสลุ้นไป ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ปีหน้าเพราะห่างจาก 4 อันดับแรก 15 แต้ม

หลังเกม เดวิด มอยส์ นายใหญ่ แมนยู ยอมรับการเสียประตูอย่างรวดเร็วถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมซึ่งทำให้แผนที่วาง ไว้รวนไปหมด และชี้ว่าทีมของตนยังห่างชั้นกับเพื่อนร่วมเมืองพอสมควร “เราออกสตาร์ทไม่ดีในช่วงแรก แต่ 15 นาทีต่อมาก็เริ่มทำได้ดี จนกระทั่งเราเสียประตูที่สอง ซึ่งต้องยอมรับว่าเรายังไม่ดีพอ”

“การที่เรายังไม่เสียลูกที่ 2 ทันทีทำให้ยังมีโอกาสฮึดสู้เพิ่อกลับมา แต่พอครึ่งหลังกลายเป็นว่าเราเอาความกดดันใส่ตัวเอง พลาดประกบตัวจนเสียประตูที่ 2 ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าควรทำให้ดีกว่านี้ ตอนหมดครึ่งแรกผมบอกทุกคนว่าเราต้องครองเกมและโจมตีพวกเขาแต่ก็ทำไม่ได้” มอยส์ กล่าว

ส่วน มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ออกโรงชมลูกทีมเล่นกันได้ดีและทำประตูได้ทั้งที่โอกาสไม่ได้มากมายเท่าคู่ แข่ง “ผมคิดว่าเราเล่นกันได้ดีมาก ยิงได้ 3 ประตู ทั้งที่มีโอกาสจะแจ้งกันแค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น ผมจำไม่ได้ว่า ยูไนเต็ด มีโอกาสแบบนี้มากแค่ไหน แต่เราก็ทำได้ดีกว่าและเล่นได้อย่างดุดันตั้งแต่เริ่ม”

“ชัยชนะที่ได้มามีผลดีในทางจิตวิทยามาก เราต้องเผชิญหน้ากับยอดทีมอย่าง แมนยูและทำได้ดี ดังนั้นสิ่งสำคัญของเราคือต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้ในเกมกับ ลิเวอร์พูล และ เชลซี ตอนนี้เรามี 3 แต้มเหนือกว่า อาร์เซนอล และต้องรักษามันไว้ให้ดี” กุนซือชาว ชิเลียน ทิ้่งท้าย