ย้ำแค้น (หน 4) หรือถอนแค้น อินทรีเหล็ก
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ แล้วก็มาถึงคิวของกลุ่ม จี ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่เกมประเดิมสนามจัดเป็นศึกบิ๊กแมตซ์ประจำกลุ่มเลยระหว่าง เยอรมัน ปะทะ โปรตุเกส ณ สังเวียนอาเรน่าฟอนเต้ โนวา เมืองซัลวาดอร์
อย่างที่ราบว่าในกลุ่ม จี นอกจากทัพ “อินทรีเหล็ก” กับ “ฝอยทอง” แล้ว อีก 2 ทีมร่วมกลุ่มอย่าง กานา และ สหรัฐอเมริกา ก็เป็นทีมแกร่งที่ไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน ดังนั้นทั้ง 4 ทีมจึงจำเป็นต้องเน้นและทุมเทเต็มสูบตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวลงสนาม
เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ โยอัคคิมเลิฟ อาจทะผลงานได้ดีตลอดการลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ คืออย่างน้อยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศทุกครั้ง ไล่ตั้งแต่รองแชมป์ ยูโร 2008, อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2010 และรอบตัดเชือก ยูโร 2012 แต่สำหรับพวกเขาการร้างราแชมป์ยาวนานตั้งแต่ได้แชมป์ ยูโร 1996 ถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเกินไป
ด้าน เปาโล เบนโต้ กุนซือทีมชาติ โปรตุเกส โชว์ผลงานทัวร์เมนต์ใหญ่ครั้งแรกสามารถพาทีมไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือกใน ยูโร 2012 ก่อนจะไปแพ้จุดโทษต่อ สเปน ทีมแชมป์ หลังเสมอ 0-0 ในเวลาปกติและต่อเวลาพิเศษ ชนิดที่รูปเกมพวกเขาไม่ได้เป็นรองสักนิด
ความพร้อมก่อนเกมคู่นี้ อินทรีเหล็ก มีรายงานข่าวว่า เลิฟ เตรียมปรับมาใช้ระบบ 4-3-3 เกมรุกดร็อป เมซุต โอซิล ที่ฟอร์มตก และให้ อันเดร เชือร์เล่, ลูคัส โฟดอลสกี้ กับ โธมัส มุลเลอร์ เป็นสามประสานเกมรุก แดนกลาง ฟิลิปป์ ลาห์ม จะถูกดันขึ้นมาคุมเกมร่วมกับ ซามี่ เคดิร่า และ โทนี่โครส ส่วนเกมรับยึดชุดเดิมจากเกมถล่มชนะอาร์เมเนีย 6-1 ทั้งหมด
ขณะที่ ฝอยทอง ข่าวดีที่สุดคงหนีไม่พ้น การฟิตพร้อมลงเป็นตัวจริงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้กับตันทีมสตาร์เบอร์หนึ่งประจำทีม ขุมกำลังที่เหลือไม่มีอะไรต้องกังวลพร้อมส่งชุดใหญ่ลงสนาม
พลิกปูมของเกมระหว่าง เยอรมัน ปะทะ โปรตุเกส ทั้งสองทีมเจอกันบ่อยมาก โดยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 4 ครั้งหลังสุด มีเพียงฟุตบอลโลก 2010 ที่ไม่เจอกันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม 3 ครั้งที่เจอกันในฟุตบอลโลก 2006, ยูโร 2008 และยูโร 2012 เป็นเยอรมัน ที่สามารถกำชัยเหนือ โปรตุเกส ได้ทุกครั้ง
ชัยชนะล่าสุดของโปรตุเกส เหนือ เยอรมันต้องย้อนไปถึงศึก ยูโร 2000 ที่ แชร์โจ้ คอนไซเชา ทำแฮตทริกให้ ฝอยทอง ถล่มชนะ 3-0 ซึ่งความพ่ายแพ้ครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ เดเอฟเบ และวงการฟุตบอลเยอรมัน ตัดสินใจปรับโครงสร้างและให้ความสำคัญกับระบบพัฒนาเยาวชนมากยิ่งขึ้น
3 เกมหลังสุดที่เจอกันและชัยชนะเป็นของเยอรมัน ครั้งแรกคือการเจอกันในฟุตบอลโลก 2006 เกมชิงอันดับ 3 ซึ่ง อินทรีเหล็ก ที่มี เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ คุมทีม และ เลิฟ เป็นมือขวา ทุบชนะโปรตุเกส ไป 3-1 จากการเหมายิง 2 ประตูของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ส่วนอีกลูกเป็น อาร์มันโด้ เปตีต์ ทำเข้าประตูตัวเอง
ครั้งต่อมาคือศึก ยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ เยอรมัน ที่มี เลิฟ ขึ้นมาทำหน้าที่เทรนเนอร์เต็มตัว สามารถเฉือนชนะ โปรตุเกส ที่ฟอร์มสุดหรูอย่างยิ่งตอนนั้นลงได้ 3-2 ซึ่งคนทำประตูให้ เยอรมันได้แก่ ชไวน์สไตเกอร์, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ มิชาเอล บัลลัค ส่วน ฝอยทอง ได้จาก นูโน่ โกเมส และ เอลแดร์ ปอสติก้า
สุดท้ายที่เจอกันคือศึก ยูโร 2012 รอบแรก ซึ่งเป็น มาริโอ โกเมซ โหม่งประตูชัยให้เยอรมัน เฉือนเอาชนะ 1-0 ก่อนสุดท้ายทั้งสองทีมจะเข้าไปถึงรอบตัดเชือกและหยุดเส้นทางไว้ตรงนั้น
การโคจรมาเจอกันหนที่ 4 บนแผ่นดินกาแฟ ทั้งสองทีมแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องขุมกำลังจากเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเฉพาะฝั่ง โปรตุเกส ที่คาดว่า 11 คนแรกที่จะลงสนามคืนนี้ อาจปรับเปลี่ยนจากเกมที่เมืองลวีฟ เพียงแค่ 2-3 จุดเท่านั้น
ข่าวดีที่สุดของ ฝอยทอง อยู่ที่การฟิตพร้อมลงเป็นตัวจริงของ คริสเตียโน่ โรนับโด้ ที่เหลือเป็นชุดเดิมๆ โดยเฉพาะเกมรับ 4 คนที่เป็นชุดเดิม มี ชูเอา เปเรยร่า กับ ฟาบิโอ โกเอนเตรา ยืนแบ็กขวาและซ้ายตามลำดับ คู่เซนเตอร์แบ็กให้ เปเป้ จับคู่ บรูโนอัลเวส แดนกลางมี ชูเอา มูตินโญ่ กับ ราอูล เมยเรเลส คอยเดินเกม ตัวตัดเกมต้องเลือกระหว่าง วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ หรือ มิเกล เวโลโซ่
ขณะที่ อินทรีเหล็ก รายงานล่าสุดจากสื่อเมืองเบียร์ จุดเดียวที่ เลิฟ ต้องตัดสินใจคือแนวรุกในระบบ 4-3-3 จะใช้ใครระหว่าง เมซุต โอซิล หรือ อันเดร เชือร์เล่ ลงสนาม ส่วนอีกสองคนเป็นโควตาของ โธมัส มุลเลอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี้ ค่อนข้างแน่นอน
แดนกลางมีการยืนยังแล้วว่าจะให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีม มาทำหน้าที่ร่วมกับ ซามี่ เคดิร่า และ โทนี่ โครส หลังจาก บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ห้องเครื่องตัวเก่งยังไม่ฟิตเต็มร้อย แนวรับยึดชุดเดิมจากเกมอุ่นเครื่องถล่ม่ชนะ อาร์เมเนีย 6-1 ทั้งหมดตำแหน่งแบ็กขวาและซ้ายให้ เยโรม บัวเต็ง กับ เบเนดิกต์ เฮอเวเดส ประจำการ
ปัญหาสำคัญของทั้งสองทีมที่เห็นชัดคือ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ขาดแคลนคนที่ไว้ใจได้ โดยเยอรมัน มีแค่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ แต่อย่างที่ทราบคือสภาพร่างกายไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว ขณะที่ โปรตุเกสไม่ว่าจะเป็น ปอสติก้า หรือ อูโก้ อัลเมยด้า แล้วแต่ฝากความหวังอะไรไม่ได้
จึงน่าสนใจว่า เลิฟ และ เบนโต้ จะแก้ไขปัญหาจุดนี้อย่างไร และจะวางแท็กติกใดเพื่อพาทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
จะย้ำแค้นครั้งที่ 4 ของ เยอรมัน หรือโปรตุเกส จะคว้าชัยครั้งแรได้ในรอบ 4 นัด คำตอบอยู่ที่ค่ำคืนนี้ เพื่อนๆละครับเลือกแทงบอลอะไรคืนนี้
มาตรฐานยี่ห้ออินทรีเหล็ก
ประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก 19 ครั้งที่ผ่านมา แม้บราซิล จะเป็นเพียงชาติเดียวที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทุกครั้ง แต่สำหรับชาติที่ทำผลงานได้ลงเตะมากที่สุดในรอบสุดท้ายนั้นกลับเป็นของ เยอรมัน ที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย17 ครั้ง
เรียกว่ามาตรฐานของ อินทรีเหล็ก แข็งแกร่งและไว้ใจได้เสมอในรอบสุดท้าย
อันดับ 1 เยอรมัน :ลงเตะ 99 นัด – ชนะ 60 เสมอ 19 แพ้ 20 ยิง 206 ประตู เสีย 117 ประตู
อันดับ 2 บราซิล :ลงเตะ 97 นัด – ชนะ 67 เสมอ 15 แพ้ 15 ยิง 210 ประตู เสีย 88 ประตู
อันดับ 3 อิตาลี่ : ลงเตะ 80 นัด – ชนะ 44 เสมอ 21 แพ้ 15 ยิง 126 ประตู เสีย 74 ประตู
อันดับ 4 อาร์เจนตินา : ลงเตะ 70 นัด – ชนะ 37 เสมอ 13 แพ้ 20 ยิง 123 ประตู เสีย 80 ประตู
อันดับ 5 อังกฤษ :ลงเตะ 59 นัด – ชนะ 26 เสมอ 19 แพ้ 14 ยิง 77 ประตู เสีย 52 ประตู
อันดับ 6 สเปน :ลงเตะ 56 นัด – ชนะ 28 เสมอ 12 แพ้ 16 ยิง 88 ประตู เสีย 59 ประตู
อันดับ 7 ฝรั่งเศส : ลงเตะ 54 นัด – ชนะ 25 เสมอ 11 แพ้ 18 ยิง 96 ประตู เสีย 68 ประตู
อันดับ 8 เม็กซิโก :ลงเตะ 49 นัด – ชนะ 12 เสมอ 13 แพ้ 24 ยิง 52 ประตู เสีย 89 ประตู
อันดับ 9 อุรุกวัย :ลงเตะ 47 นัด – ชนะ 18 เสมอ 12 แพ้ 17 ยิง 76 ประตู เสีย 65 ประตู
อันดับ 10 สวีเดน :ลงเตะ 46 นัด – ชนะ 16 เสมอ 13 แพ้ 17 ยิง 74 ประตู เสีย 69 ประตู