สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ ผลการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในวันเสาร์นั้นต้องถือว่าพลิกล็อกมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กันเลยทีเดียว…

จริงๆ มันส่อแววมาตั้งแต่วันศุกร์แล้วละ เมื่อทีมเต็งอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่ออกไปเสมอกับเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 0-0 ซึ่งเคมบริดจ์ที่ว่านี้เป็นแค่ทีมระดับลีก ทู หรือดิวิชั่น 4 ของอังกฤษเท่านั้นเอง

ก็นึกว่าจะแค่นั้น ที่ไหนได้ดูผลการแข่งขันในวันเสาร์ซิครับ แล็คเบิร์น ชนะ สวอนซี ซิตี้ 3-1, เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ คริสตัล พาเลช 2-3, เซลซี แพ้ แบร็ดฟอร์ด ซิตี้ 2-4 แมนฯ ซิตี้ แพ้ มิดเดิ้ลสโบรซ์ 0-2 และสเปอร์ส แพ้เลสเตอร์ 1-2

การพลิกล็อกแบบรุนแรงโดยเฉพาะใน 4 คู่หลังเกิดขึ้นในวันเดียวกัน มันไม่ปกตินักหรอกครับ แบบนี้นานนับสิบปีจึงจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่านี่เป็นวันที่ต้องบันทึกเอาไว้เลย

เมื่อรวมกับการที่คู่ดึก ลิเวอร์พูลทำได้แค่เป็นรังแอนฟิลด์รับมือโบลตัน วันเดอเรอร์สจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ แล้วเสมอกันไป 0-0 ก็เท่ากับว่าแทบจะพลิกล็อกหมดเลยล่ะสิเนี่ย

นั่นเท่ากับว่าเชลซี ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก (แพ้ทีมลีก วัน ตกรอบคาถิ่น), แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก (แพ้ทีมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ตกรอบคาถิ่น), เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 3 (แพ้ทีมหนีตกชั้น ตกรอบคาถิ่น), แมนฯ ยูฯ อันดับ 4 (เสมอทีมลีก ทู นอกบ้าน), สเปอร์ส อันดับ 6 (แพ้ทีมหนีตกชั้น คาถิ่น), ลิเวอร์พูล อันดับ 8 (เสมอทีมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในถิ่นตัวเอง), อันดัน 9 สวอนซี ซิตรี้ (แพ้ทีมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ นอกถิ่น)

เห็นมั้ยครับว่า แทบจะแพ้หมดเลยเนี่ย ป่านนี้คุณๆ ทราบผลในวันอาทิตย์ไปแล้วว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ที่ไปเยือนบริสตอล ซิตี้ ทีมลีก วัน และอาร์เซน่อลที่ไปเยือนไบรท์ตัน ทีมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ จะโดนโรคพลิกล็อกเล่นงานด้วยหรือไม่

เมื่อ 2 ซีซั่นที่แล้ว “ไก่แจ้” แบร็ดฟอร์ต ซิตี้ ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ในลีก ทู อยู่เลย เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมดิวิชั่น 4 ทีมแรกที่ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศบอลลีก คัพ ได้สำเร็จแม้จะแพ้สวอนซีในรอบชิงชนะเลิศถึง 0-5 ก็ตามเหอะ

สมัยนี้หายากนะครับที่ทีมซึ่งไม่ได้อยู่ในพรีเมียร์ลีกจะผ่านเข้าไปชิงบอลถ้วยได้สำเร็จ อย่างเอฟเอ คัพ ระยะหลังๆ นานๆ ทีจึงจะมีทีมเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ผ่านเข้าไปชิงได้แต่ก็แพ้ทั้งหมด ทีมจากลีก วัน หรือลีก ทู ไม่เห็นเลย เอาแค่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ก็ฮือฮาแล้วล่ะ

แต่แบร็ดฟอร์ด ซิตี้นี่ระดับลีก ทู ในตอนนั้นหรือดิวิชั่น 4 เลยนะเนี่ย แต่ผ่านด่านหินเข้าไปชิงชนะเลิศลีก คัพได้ก็ต้องถือว่ามหัสจรรย์แล้วล่ะ ซึ่งตอนนี้แบร็ดฟอร์ดยกระดับตัวเองขึ้นมาเล่นในลีก วัน หรือดิวิชั่น 3 แล้ว

ทีมระดับดิวิชั่น 3 แต่กล้าๆ บุกไปเอาชนะเชลซีของ โซเซ่ มูรินโญ่ ถึง 4-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายนักหรอกนะ งานนี้แบร็ดฟอร์ดจึงสร้างประวัติศาสตร์สโมสรได้อีกครั้งหนึ่ง

หรือจะเป็นแมนฯ ซิตี้ที่กล้าๆ แพ้มิดเดิ้ลสโบรซ์ 0-2 คารังเอติฮัด สเตเดี้ยม ก็เป็นเรื่องที่ช็อกและไม่น่าเชื่อเหมือนกัน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เต็ง 1 เต็ง 2 ไปกันหมดพร้อมๆ กันเลยทีเดียว

สเปอร์สนี่ 2-3 ปีหลังในฟุตบอลถ้วยพวกเขาแพ้สกอร์ 1-2 ลักษณะโดนไล่แซง 2 ประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้ายบ่อยทีเดียว นอริช ซิตี้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดเคยทำอย่างนี้กับพวกเขามาแล้ว

อัตราต่อรองแชมป์เอฟเอ คัพ ที่แล็ดโบรกส์หลังจากจบเกมในวันเสาร์เป็นอย่างนี้นะครับ แมนฯ ยูฯ 11-4, อาร์เซน่อล 3-1, ลิเวอร์พูล 5-1, เวสด์แฮม 10-1, สโต๊ค 16-1, เวสต์บรอมวิช 16-1, คริสตัล พาเลซ 20-1, เลสเตอร์ 25-1, เลสเตอร์ 25-1, มิดเดิ้ลสโบรซ์ 25-1, แอสตันวิลล่า 25-1, ซันเดอร์แลนด์ 33-1, ดาร์บี้ 33-1 ฯลฯ

งานนี้เลยกลายเป็นว่าแมนฯยูฯ, อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล เป็นตัวเต็งแชมป์ที่เข้มขันทีเดียว โดยมีเวสต์แฮม, สโต๊ค, เวสต์บรอมวิช หรือคริสตัล พาเลซ เป็นตัวสอดแทรก

พาเลซที่มี อลัน พาร์ดิว เป็นผู้จัดการทีมไล่แซงชนะสเปอร์สกับเบิร์นลี่ย์ในลีกมาเหลือกเกิน นี่ยังมาไล่แซงเซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 อีก อลัน พาร์ดิว นี่ร้ายจริงๆ เขามีโอกาสพาคริสตัล พาเลซเป็นแชมป์ได้เหมือนกันนะเนี่ย

เดี๋ยวต้องรอดูการจัดสลากรอบ 5 ออกมาก่อนรวมทั้งดูผลของวันอาทิตย์และจันทร์ด้วย เราค่อยมาว่ากันอีกทีครับ

ลงท้ายกันที่ฟุตบอลในวันจันทร์เราเชียร์ทีมชาติเกาหลีใต้ไปได้เลย