หมัดน็อกยี่ห้อ ‘สิงห์บลูส์’
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงอบหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ ย่างเข้าสู่ 50 เมตรสุดท้ายในศึกมาราธอน พรีเมียร์ลีก 2014-15 ไม่จบ แต่ก็เหมือนได้บทสรุป ไม่ช้าก็เร็ว ถ้วยใบเงินราวจะถูกนำกลับสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
บิ๊กแบตช์กับยักษ์ใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในเกมที่แสดงให้เห็นถึงคมเขี้ยวทางด้านแท็กติกของ โชเซ่มูรินโญ่ ที่รับประกันซ่อมฟรีเรื่องผลการแข่งขัน หากเป็นสังเวียนผ้าใบ “ปีศาจแดง” คือผู้ชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์แต่เมื่อฟุตบอลตัดสินกันที่ประตู เชลซีจึงกลายเป็นซิวชัย
ก่อนประตูโทนของ เอแด็น อาซาร์ ว่าที่พีเอฟเอประจำฤดูกาล ยูไนเต็ดครอบบอลได้มากกว่าแทบเบ็ดเสร็จจนอดสงสัยไม่ได้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าบ้าน? ทว่าเมื่อถึงวินาทีเผด็จศึก เชลซีไม่ปล่อยให้โอกาสทองฝังลูกนิมิตเลยผ่าน
“มันเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น” นายใหญ่โปรตุกีสเฉลยหลังเกม มันเป็นแท็กติดและรูปแบบการเล่นที่เชลซีทำการบ้านมาตลอดทั้งสัปดาห์ แม้ปล่อยให้คู่แข่งครองบอล แต่ก็ไม่เปิดโอกาสให้ใช้จุดแข็งโจมตี กอปรกับการที่ยูไนเต็ดขาดผู้เล่นไปพร้อมกันหลายราย จนต้องถอยเพชฌฆาตหน้าอ้วนอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ลงมายืนมิดฟิลด์ ซึ่งนั่งย่อมเป็นการลดทอนความดุดันแผงหน้า อย่างเลี่ยงไม่ได้ ครั้งจะเขียนเสือ “เอล ติเกร” ให้สิงห์กลัวก็ไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
ระยะห่างแตะเลข 2 หลัก ขณะที่เหลือเกมตกค้างอีก 1 นัด เหลี่ยมไหน เชลซีก็คงไม่พลาดซิวโทรฟี่สัปดาห์หน้า บิ๊กไฟต์ผ่าเมืองหลวงกับอาร์เซน่อล อาจเป็นพิธีปิดฤดูกาลอย่างไม่เป็นทางการ
พื้นที่ท็อปโฟร์คลายความตื่นเต้น หลังการกลับมาชนะ 2-0 ของ “เรือใบสีฟ้า” ที่มีต่อคู่แข่งร่วมเมืองอย่างเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประตูที่ 3 จาก 2 นัดหลังของ เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” พอคลายความร้อนบนเบาะนุ่มใต้ก้นมานูเอล เปเยกรีนี่ ไปได้เล็กน้อย
แต้มที่ห่างลิเวอร์พูล (อันดับ 5) ถึง 7 คะแนน แม้แข่งมากกว่า 1 นัด กระนั้น ด้วยจำนวนเกมที่เหลือแค่นับนิ้ว โอกาสทำแต้มแซงหน้าเพื่อซิวตั๋ว ชปล. แทบหมดโอกาสในความเป็นจริง
4 อันดับแรกไม่น่าเปลี่ยนมือ แต่คงต้องลุ้นกันว่า ทีมไหนจะจบฤดูกาลได้แย่กว่ากัน และต้องไปเริ่มต้นศึกหูใหญ่ตั้งแต่รอบเพลย์ออฟ
ส่วนพื้นที่ยูโรปา ลีก ความสนุกคืนมาอีกครั้ง เมื่อสเปอร์สในยุคพายุเฮอร์ริเคนโหมกระหน่ำ เก็บชัยชนะเหนือนิวคาลเซิ่ล 3-1 พร้อมกับทำแต้มทาบลิเวอร์พูล (แต่แข่งมากกว่า 1 นัดและประตูได้เสียเป็นรอง 5 ลูก)
กระนั้น ด้วยฟอร์มรุ่งริ่งในเกมบอลถ้วยกับแอสตัน วิลล่า ดูเหมือน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาลิเวอร์พลูสู่วันน้ำวนอีกครั้ง ความดีความชอบที่ทำไว้ตั้งแต่ต้นปี 2015 ที่ผ่านมา มอดไหม้ไปตามปฏิทิน มาถึงตรงนี้ อันดับ 5 บนหน้าปัดตารางไม่ใช่ของตายอีกแล้ว
ขณะที่ท้ายตาราง สัญญาณ “สู้โว้ย” ดังกระหึ่ม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นธาตุนักสู้ ด้วยการดิ้นรนสุดชีวิต และกวาดชัยชนะในลีกเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน จากเกมอัดสวอนซี 2-0
ไม่เพียงแต่เก็บ 3 แต้มเท่านั้น มันยังส่งผลให้ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ก้าวพ้นบ๊วยของลีกสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนทีเดียว
เลสเตอร์กลับมาอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งอย่างถูกที่ถูกเวลา กระนั้น 6 เกมที่เหลือ พวกเขาต้องชนกับทีมหนีตายด้วยกันถึง 3 ทีม (เบิร์นสี่ย์, ซันเดอร์แลนด์ และควีนส์ปาร์ค) รวมถึงอีกเกมกับเชลซี ที่ดูยังไงก็หนักหนาสาหัสแน่โอกาสอยู่หรือรอดจึงอยู่ในอัตราเท่ากัน
เบิร์นลี่ย์กลายเป็นบ๊วยทีมใหม่ หลังความพ่ายแพ้ 0-1 ที่กูดิสัน พาร์ค มันเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่พวกเขายิงไม่ได้ และทำให้ทีมได้แค่แต้มเดียวจากช่วงดังกล่าว 5 เกมสุดท้ายเพื่อต่อลมหายใจ เสมือนนัดชิงบอลถ้วยไม่ผิดเพี้ยน