เบิร์นลี่ย์
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ 1 ใน 3 ทีมน้องใหม่ประจำซีซั่นนี้ แต่จริงๆ ก็ถือว่าไม่ใหม่เท่า เพราะพวกเขาเคยอยู่บนลีกสูงสุดมาแล้วเมื่อซีซั่น 2009-2010 ซึ่งในปีนั้นเคยทำเรื่องซ็อคด้วยการเชือดทีมแชมป์เก่าจากฤดูกาลก่อนอย่าง “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ดด้วยสกอร์ 1-0 มาแล้วด้วยซ้ำ
หลังห่างหายจากลีกสูงสุดไปเกือบ 4 ปี คราวนี้เบิร์นลี่ย์กลับมาแบบอัตโนมัติ ในฐานะรองแชมป์เดอะแชมป์เปี้ยนชิพ ซึ่งถือเป็นการอยู่บนลีกสูงสุดปีที่ 53 ในประวัติศาสตร์สโมสรด้วย
แน่นนอว่าการกลับมาครั้งนี้ พวกเขาหวังว่าจะอยู่บนพรีเมียร์ลีกให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทราบกันดีว่าในพรีเมียร์ลีกนั้นเต็มไปด้วยบรรคเสือ, สิงห์, กระทิง, แรด และภยันอันตรายต่างๆ นานา
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ ฌอน ไดซ์ กุนซือผู้ได้ชื่อว่าพาทีมเลื่อนขั้นกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง หลังการรันตีสิทธิ์จากการชนะวีแกน 2-0 ต้องพยายามเสริมความแข็งแกร่งในทุกสัดส่วนของทีมให้มากและดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หากมองจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ก็จะเห็นว่าไดซ์และทีมงานกำลังพยายามอย่างเต็มที่ สะท้อนให้เห็นจากการเดินเข้ามาสู่ถิ่นเทิรฟ์ มัวร์ของ 6 แข้งใหม่ ที่มาแบบทั้งเสียตังค์และได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็น เคิ่ล ไดท์ลี่ย์, มาริวิน ซอร์เดลล์, ลูคัส ยุตคีวิช, แม็ตต์ กิลค์ส, แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ สตีเว่น รีด
แม้นักเตะเหล่านี้จะไม่ใช่พวกเกรด เอ แต่บางรายก็ตะบันแข้งในพรีเมียร์ลีกมาอย่างโชกโชน ดังนั้นประสบการณ์ของพวกเขาจึงถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นและสามารถช่วยทีมได้ในระดับนึง
บวกกับความหวังสูงสุดของทีมอย่าง แดนนี่ อิงค์ส กองหน้า ผู้ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลื่อนขั้นครั้งนี้ เมื่อกระหน่ำไปทั้งสิ้น 26 ประตูในเดอะแชมป์เปี้ยนชิฟ ซีซั่นก่อน
หากไดซ์สามารถหล่อหลอมนักเตะที่เข้ามาใหม่ให้เป็นเนื้อเดียวกับบรรดาแกนหลักที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาพร้อมทั้งจุดประกายแห่งความร้อนแรงของอิงค์สได้อย่างต่เนื่องเหมือนที่เคยเป็น โอกาสที่พวกเขาจะได้อยู่พรีเมียร์ลีกอีกปี ก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียเลย
แม้กวาจะถึงตรงนั้น อาจต้องเหนื่อยชนิดสายตัวแทบขาดสะบั้นเลยก็ตาม
คำทำนาย : ดิ้นหนีตายแบบมีสไตล์
ข้อมูลทั่วไป
ก่อตั้ง : ปี ค.ศ. 1882
เข้าร่วมลีก : ปี ค.ศ. 1888
ฉายา : เดอะ คลาเร็ตส์
ประธานสโมสร : ไมค์ การ์ลิค และ บานาสซ์คีวิชซ์
ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดซ์
ผู้ช่วยผู้จัดทีม : เอียน โวน
สนามเหย้า : เทิร์ฟ มัวร์ (22,546 ที่นั่ง)
เกียรติยศ
แชมป์ ดิวิชั่น 1 (เดิม) : 1920-21 , 1959-60
แชมป์ ดิวิชั่น 2 (เดิม) : 1897-98 , 1972-73
แชมป์ ดิวิชั่น 3 (เดิม) :1981-82
แชมป์ ดิวิชั่น 4 (เดิม) :1991-92
แชมป์ เอฟเอ คัพ : 1913-14
แชมป์ แชริตี้ ชิลด์ : 1973
สถิติสโมสร
ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล : จอร์จ บีล : 35 ประตู 1927/28 ดิวิชั่น 1
ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล : จอร์จ บีล : 178 ประตู ระหว่างปี 1923/32
ลงเล่นมากที่สุด : เจอร์รี่ ดอว์สัน : 522 นัด ระหว่างปี 1907/28
สถิติชนะสูงสุด : 9-0 ดาร์เวน 09/01/1892 ดีวิชั่น 1
สถิติแพ้สูงสุด : 0-10 พบ แอสตัน วิลล่า 29/08/1925 ดิวิชั่น 1
สถิติขายนักเตะแพงสุด : 7 ล้านปอนด์ : เจย์ โรดริเกรซ ไปเซาธ์แฮมป์ตัน, 10 มิ.ย. 2012
สถิติซื้อนักเตะแพงสุด : 3 ล้านปอนด์ : สตีเว่น เฟลีทเชอร์ จากฮิเบอร์เนี่ยน, 30 มิ.ย. 2009
อันดับฤดูกาลที่แล้ว : 2 (เดอะ แชมป์เปี้ยนชีพ)
การซื้อ-ขายผู้เล่น ฤดูกาล 2014/15
ย้ายเข้า
ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์ (ไม่เปิดเผย) จาก สโต๊ค ซิตี้
มาร์วิน ซอร์เดลล์ (ไม่เปิดเผย) จาก โบลตัน
ลูคัส ยุตคีวิช (ไม่เปิดเผย) จาก มิดเดิ้ลสดบรซ์
แม็ตต์ กิลค์ส (ฟรี) จาก แบล็คพูล
แม็ทธิว เทย์เลอร์ (ฟรี) จาก เวสต์แฮม
สตีเว่น รีด (ฟรี) จาก เวสต์บรอมวิช
ย้ายออก
โจเซฟ มิลล์ส (ฟรี) ไป โอล์ดแฮม
ดาวิด เด็ดการ์ (ฟรี) ไป เบอร์มิงแฮม
จูเนียร์ สตานิสลาส (ฟรี) ไป บอร์นมัธ
คริส แบร์ด (ฟรี) ไป เวสต์บรอมวิช
รายชื่อผู้เล่นฤดูกาล 2014/15
1.ทอม ฮีดัน ผู้รักษาประตู
2.คีแรน ทริปเพียร์ กองหลัง
3.ดาเนียล แลฟเฟอร์ตี้ กองหลัง
4.ไมเคิล ดัฟฟ์ กองหลัง
5.เจสัน แช็คเคลล์ กองหลัง
6.เบน มี กองหลัง
7.รอสส์ วัลเลซ กองกลาง
8.ดีน มาร์นีย์ กองกลาง
9.แซม โค้คส์ กองหน้า
10.แดนนี่ อิงค์ส์ กองหน้า
12.อเล็กซ์ ซิซัค ผู้รักษาประตู
14.เดวิด โจนส์ กองกลาง
15.แม็ทธิว เทย์เลอร์ กองกลาง
16.ลุค โอนีลล์ กองหน้า
17.มาร์วิน ซอร์เดลล์ กองหน้า
18.สตีเว่น รีด กองหลัง
19.ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์กองกลาง
20.ลูคัส ยุตคีวิช กองหน้า
22.แม็ตต์ กิลค์ส ผู้รักษาประตู
28.เควิน ลอง กองหลัง
30.แอชลี่ย์ บาร์นส์ กองหน้า
33.สตีเว่น ฮิววิตต์ กองกลาง
37.สกอตต์ อาร์ฟิลด์ กองกลาง
ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดซ์
กุนซือหนุ่มใหญ่มาดดุดันวัย 43 ปี เริ่มจับงานคุมทีกับ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด หนึ่งในอดีตทีมที่เขาเคยค้าแข้งด้วย กระทั่งเดือนตุลาคมปี 2012 ไดซืจึงได้รับโอกาสให้เข้ามาทำทีมเบิร์นลีย์ต่อจา เอ็ดดี้ ฮาว ที่ซึ่งไปรับงานกับบอร์นมัธในลีกวัน
ไดซ์เปิดตัวได้อย่างส่วยงามกัลป์เดอะ คลาเร็ตส์ เมื่อพาทีมชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ในการคุมทีมนัดแรก ก่อนคว้ารางวัลกุนซืออยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน 2013 และในยุคของไดซ์ถือว่าเบิร์นลีย์มีผลงานการออกสตาร์ตดีที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่สโมสรก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1882 เลยทีเดียว
ตลอดซีชั่นแห่งความสุขของสาวกเดอะ คลาเร็ตส์ ที่ไดซ์พาทีมทุบสถิติอันเป็นมงคลต่างๆ นานาจนราบคาบกระทั่ง 21 เมษายน 2014 จึงเป็ฯวันที่พวกเขารอคอย เพราะเป็นวันที่เบิร์นลี่ย์คว้าตั๋วเลื่อนขั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังเปิดบ้านชนะวีแกน 2-0
สตาร์เด่น : แดนนี่ อิงค์ส
ดาวยิงหนุ่มวัยเพียง 21 ปีเป็นความหวังสูงสุดของทีมในตอนนี้ อิงค์สมาอยู่กับเบิร์นลีย์ในยุคของเอ็ดดี้ ฮาว เมื่อสิงหาคม ปี 2011 ด้วยความที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนที่อบร์นมัธนั่นเอง
ถึงอย่างนั้นอิงค์สก็ยังไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม โดยต้องรอกระทั่งช่วงปรีซีซั่นของฤดูกาล 2012-13 เมื่อดาวยิงตัวหลักคนก่อนอย่าง เจย์ โรดริเกซ โดนปล่อยไปให้เซาธ์แฮมป์ตน
อิงค์สก้าวขึ้นมารับบทมือ 1 แทนแต่ก็โชคร้ายสุดๆ ในเกมลับแข้งนัดสุดท้ายที่ถล่มรอชเดล เขาดวงแตกสุดๆ เมื่อเข่าพังทำให้ต้องพักยาวกว่าครึ่งปีแต่พอฟิตกลับมา ความน่าประทับใจของเขาก็ยังเหมือนเดิม อิงค์สทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ตัวอย่างเช่นกดไป 2 เม็ดจาก 3 เกมแรกของซีซั่นก่อน เช่นเดียวกับประตูสำคัญในเกมลีก คัพ กับ ยอร์คซิตี้ จนสรุปยอดรวมได้ที่ 26 ประตูรวมทุกรายการ
จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อซีซั่นก่อนมาครองและแน่นอนว่าทั้งไดซ์และแฟนเบิร์นลี่ย์ทุกคน ต่างหวังให้ฟอร์มของอิงค์สในซีซั่นใหม่นี้ยังคงความร้อนแรงแบบนี้ต่อไป