10 นักเตะเล่นไม่คุ้มค่าตัว ลีกผู้ดีฤดูกาลที่ผ่านมา
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคน มาดูข่าวบอลวันนี้กันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรกันบ้างสำหรับวันนี้นั้นมาข่าวจากทางฝากฝั่งฟุตบอลต่างประเทศมาฝากกันครับ
“เดลี เมลล์” เผย 10 แข้งฝีเท้า ผลงาน เกินราคา เมื่อตลาดซัมเมอร์ปีที่แล้ว ทีมชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต่างจับจ่ายซื้อแข้งดังในราคารวมกันเเล้วที่ 238.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1หมื่น 2พันล้านบาท ) แต่มีไม่กีคนที่โชว์ผลงานได้สมราคา และนี่คือ 10 นักเตะชื่อดังที่เอาชื่อมาทิ้งไว้ในสังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมา
10. ฮวน กวาดราโด : ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย ย้ายจาก ฟิออเรนตินา มาร่วมทัพ เชลซี เมื่อช่วงตลาดซื้อขายรอบสองเดือน มกราคม 2015 ในราคา 26 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,378 ล้านบาท) แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็น 11 ตัวจริงภายใต้การคุมทัพของ โชเซ มูรินโญ ได้ แข้งวัย 27 ลงเล่นให้ “สิงห์บูลส์” ไปเพียง 12 นัด โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 4 นัดเท่านั้น และยังไม่สามารถพังประตูให้ต้นสังกัดได้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ นายใหญ่ชาวโปรตุเกส ให้โอกาสปีกโคลอมเบีย น้อยเกินไป ทำให้เจ้าของหมายเลข 23 ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์ฟุตบอลของอังกฤษ ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมา
9. เรมี กาเบลลา : มิดฟิลด์ ตัวรุก ย้ายมาร่วมทัพ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยราคา 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 636 ล้านบาท) ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสรยอมควักเงินก้อนโตจ่ายอดีตแข้งมงต์เปลลิเย่ร์ มาร่วมทีมแต่เเข้งวัย 25 ปี ลงเล่น 31 นัด กับยิงได้เพียง 1 ประตู และอีก 2 แอสซิส เมื่อเทียบกับค่าตัวอันมหาศาล ที่ “สาลิกาดง” จ่ายไป บวกกับค่าเหนื่อย 60,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ (3 ล้านบาท) ยังถือเป็นความล้มเหลวที่น่าผิดหวัง
8. แจ็ค ร็อดเวลล์ : ซันเดอร์แลนด์ ทุบคลังซื้ออดีตมิดฟิลด์ เอฟเวอร์ตัน มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 530 ล้านบาท) พร้อมค่าเหนื่อย 64,000 ปอนด์ต่อวีก (3 ล้านบาท) แข้งวัย 24 ได้รับโอกาสที่จะฟื้นฟูอาชีพค้าแข้งใหม่กับ ทัพ “แมวดำ” หลังจมปลักอยู่ที่ เอติฮัต สเตเดียม มา 3 ปี ร็อดเวลล์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ ซันเดอร์แลนด์ ไป 17 นัด ยิงได้ 3 ประตู แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ ทีมดังย่านตะวันออกเฉียงเหนือจ่ายไป
7. ฟิลิเป หลุยส์ : ย้ายมาร่วมทัพ เชลซี ด้วยราคา 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 848 ล้านบาท) แต่ไม่สามารถสดอแทรกเบียด เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ขึ้นเป็นแข้งตัวจริงได้ โดยลงสนามไป 15 นัด ออกสตาร์ทตัวจริงเพียงแค่ 9 เกมเท่านั้น โดยแข้งทีมชาติ บราซิล ตกเป็นข่าวอาจเก็บข้าวของย้ายกลับไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด อดีตต้นสังกัดเก่าอีกคำรบ หลังไม่สามารถพิสูจน์ฝีเท้ากับทัพ “สิงห์บูลส์” ได้
6. เดยัน ลอฟเลน : เบรนเเดน ร็อดเจอร์ส ดึงตัวแนวรับ โครเอเชีย มาร่วมทีมด้วยราคามหาศาล 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1060 ล้านบาท) แต่แนวรับวัย 25 ปี กลับโชว์ฟอร์มได้ไม่ดี ออกอาการเหวอบ่อยครั้ง และมีส่วนสำคัยในเกมที่ ลิเวอร์พูล พ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ที่ โอลดแทรฟฟอร์ด ก่อนจะถูกดรอปเป็นตัวสำรอง ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล 26 นัด รับค่าเหนื่อย 70,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 3 ล้านบาท) บวกกับค่าตัวมหาศาลทำให้แนวรับ “โครแอต” เป็นแข้งที่โชวืฟอร์มได้น่าผิดหวังในฤดูกาลแรกกับ “หงส์แดง”
5. มาริโอ บาโลเตลลี : ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยราคา 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ884 ล้านบาท) กับความหวังที่จะจุดประกายตัวเองอีกครั้ง แต่ศูนย์หน้า อิตาลี กลับโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง ยิงไปเพียง 1 ประตูในเวทีพรีเมียร์ลีก และไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมได้ กับค่าจ้าง 90,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 4 ล้านบาท) เป็นการลงทุนที่ไม่ได้กำไรของทีมดังถิ่น แอนฟิลด์
4. ลุค ชอว์ : ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอรื ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 18 ปี ด้วยราคาที่แพงมหาศาล 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1590 ล้านบาท) แม้ว่าจะยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเองอีกหลายฤดูกาลจากนี้ แต่หากนับฤดูกาลแลกของอดีตแข้ง เซาแธมป์ตัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 15 นัดเท่านั้น ด้วยราคาแพงระยับกับค่าเหนื่อย 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (4 ล้านบาท) ยังถือว่าล้มเหลว กับฤดูกาลแรกใน โอลดแทรฟฟอร์ด
3. อังเคล ดิ มาเรีย : รั้งในอันดับที่ 3 ด้วยราคาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อมา 60 ล้านปอนด์ (3,180 ล้านบาท) แม้จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในช่วงแรก แต่สุดท้ายก้พบว่าปีกอาร์เจนไตน์ นั่งอยู่บนม้านั่งสำรองเสียส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ปีกวัย 27 ปี ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย และไม่ได้รับความไว้วางใจจาก หลุยส์ ฟาน กัล หลังไปโดนใบแดงแบบไม่น่าเสียในเกม เอฟเอ คัพ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่าย อาร์เซนอล 1-2 มีข่าวลืออาจย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
2. ราดาเมล ฟัลเกา : ศูนย์หน้าจาก โมนาโก ย้ายแบบยืมตัวมาร่วมทีม “ปีศาจแดง” ด้วยราคา 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 318 ล้านบาท) พร้อมค่าเหนื่อย มหาศาล 280,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 14 ล้านบาท) แต่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ในเวทีพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรก หลังลงเป็นตัวจริง 14 นัด ยิงได้ 4 ประตู 4 แอสซิส ถูกวิจารณ์ว่า แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด จ่ายเงินมหาศาลกับการทำสิ่งเล็กๆเพียงแค่ 4 ประตู ก่อนที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือใหญ่จะไม่ใช้ออปชั่น ซื้อขาด “เอลติเกร์” มาร่วมทีมแบบถาวร แต่ โชเซ มูรินโญ นายใหญ่ เชลซี คิดว่าตัวเขาอาจเป็นผู้เปลี่ยนชะตาศูนย์หน้า โคลอมเบีย รายนี้ให้กลับมามีฟอร์มในระดับท็อปคลาสอีกครั้ง และเตรียมดึงตัวอดีตหัวหอก แอตเลติโก มาดริด ไปร่วมทัพในซัมเมอร์นี้
1. เอเลียกิม ม็องกาล่า : ปราการหลังตัวแกร่ง ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต มาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี ด้วยราคา 42 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,226 ล้านบาท) เป็นกองหลังที่แพงที่สุดในเกาะอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้รับความไว้วางใจจาก มานูเอล เปเยกรีนี ให้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ กับค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 5 ล้านบาท) ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 24 นัด ถือเป็นความล้มเหลวอย่างใหญ่หลวงของทัพ “เรือใบ” ในฤดูกาลล่าสุด
ขอบคุณเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามบล๊อกแทงบอลออนไลน์ https://www.icerbet.com มาโดยตลอดครับ หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจในฐานะเพื่อนๆวงการบอลเหมือนเช่นนี้ตลอดไปครับ ขอบคุณครับ