ถนนสายนี้ไม่มีให้แก้ตัว
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอล หรือ แทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ ศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลได้เสร็จสิ้นรอบแบ่งกลุ่มไปแล้วเรียบร้อยจาก 32 ทีมเหลือเพียง 16 ทีมเท่านั้นในเส้นทางของรอบน็อกเอาต์
เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่เกิดการพลิกล็อกอภิมโหฬาร เมื่อ 3 อดีตแชมป์โลก ทั้ง “แชมป์เก่า” สเปน, อิตาลี และอังกฤษ ต่างหลุดวงโคจรไปตั้งแต่รอบแรกรวมถึงชาติชั้นนำอย่าง โปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก พ.ศ. นี้ ลงนำทัพ
ขณะที่ตัวแทนจากทวีปเอชียทั้ง 4 ต่างโดนทำหมันเรียบ เมื่อทั้ง ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, อิหร่าน และเกาหลีใต้ ต่างโบกมือลาไปแบบไม่มีทีมใดเก็บชัยได้
นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 ที่ไม่มีทีมเอเชียหลงเหลือในรอบน็อกเอาต์สถานการณ์ในรอบแรกของทั้ง 8 กลุ่ม ถือว่ออกมาค่อนข้างเซอร์ไพรส์
ในกลุ่ม เอ “เจ้าภาพ” บราซิล เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ได้ตามเป้าหมาย ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของเม็กซิโกที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาได้หวุดหวิด ก่อนเบียดโครเอเชียเข้าวินไปได้ ขณะที่แคเมอรูนไม่มีแต้มตามคาด
“แชมป์เก่า” สเปน ต้องพลาดตกรอบในกลุ่ม บี หลังพ่ายมารวดใน 2 นัดแรก ปล่อยให้ฮอลแลนด์กับชิลีควงคู่เข้ารอบต่อไป แม้ว่าในกลุ่มนี้ ออสเตรเลียจะไม่มีคะแนน แต่ผลงานในสนามถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย
กลุ่ม ซี โคลอมเบีย เก็บ 9 แต้มเต็ม ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ด้วยฟอร์มสุดยอด ทว่าอันดับ 2 ของกรีซถือว่าสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อเปิดสนามด้วยความพ่ายแพ้แบบไม่มีอนาคต แต่มาได้จุดโทษช่วงทดเจ็บนัดสุดท้าย เบียดไอวอรี่โคสต์กับญี่ปุ่นตกรอบไป
พลิกล็อกที่สุดต้องยกให้กับ กลุ่ม ดี เมื่อคอสตาริกาที่ถูกมองเป็นเพียงทีมแจกแต้มในกรีป ออฟ เดธกลับคว้าแชมป์กลุ่มด้วยผลงานไร้พ่าย โดยมีอุรุกวัยตามมาเป็นอันดับ 2 ถีบอิตาลีกับอังกฤษร่วงตกรอบไปแบบน่าขายหน้า
ในกลุ่ม อี ฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งทีมที่โชว์ฟอร์มดี ก่อนเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ได้ไม่ยากเย็น ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์แม้จะต้องดิ้นรนอย่างหนัก แต่สุดท้ายผ่านเข้ารอบสำเร็จ ปล่อยให้เอกวาดอร์กับฮอนดูรัสตกรอบไป
อาร์เจนตินาที่พึ่งพา ลิโอเนล เมสซี่ เพียงลำพังประคองตัวเก็บ 9 แต้มเต็ม เข้ารอบเป็นอันดับ 1 โดยมีไนจีเรียเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ส่วนบอสเนียฯ กับอิหร่านกลับบ้านไปอย่างชอกช้ำใจ
ขณะที่เยอรมันแม้จะยังไม่เข้าฝัก แต่ด้วยแนวรุกที่ดุดันทำให้ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 มาได้ ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของสหรัฐฯ ที่ทำผลงานได้ดีกว่าโปรตุเกสและกานาอย่างไร้ข้อถกเถียง
ปิดท้ายในกลุ่ม เอช เบลเยียมทีมม้ามืดมาแรงอาจไม่อยู่ในฟอร์มดี แต่ยังอาศัยความสามารถเฉพาะตัวเอาชนะคู่แข่งร่วมสายได้ เป็นอันดับ 1 ด้วย 9 แต้ม เต็มขณะที่อันดับ 2 ถือว่าพลิกล็อกเล็กๆ เมื่อแอลจีเรียอีกหนึ่งไม้ประดับ กลับทำผลงานได้ดีกว่า รัสเซีย และ เกาหลีใต้
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่จะเริ่มการแข่งขันในวันเสาร์นี้ เหลือตัวแทนจากยุโรปเพียง 6 ทีม, คอนคาเคฟ 3 ทีม, แอฟริกา 2 ทีม ขณะที่ทีมจากทวีปอเมริกาใต้เหลือถึง 5 ทีม จาก 6 ทีมที่ส่งเข้าประกวด
นั่นทำให้ในสายบนกลายเป็นศึกโคปา อเมริกากลาย ๆ เมื่อ 4 ทีมจากละตินต้องมาตัดกันเอง บราซิล-ชิลี และ โคลอมเบีย – อุรุกวัย มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
นอกจากนี้ ยังมีอดีตแชมป็โลกเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่ยังอยู่บนเส้นทาง คือ บราซิล, ฝรั่งเศส, อาร์เจนตินา และเยอรมัน ที่ต่างเป็นทีมเต็งแชมป์ในคราวนี้ ขับเคี่ยวกันชิงดาวบนหน้าอกเพิ่ม
ขณะที่ทีมม้ามืดนอกสายตาอย่าง ฮอลแลนด์, เบลเยียม และ โคลอมเบีย ต่างฝันถึงแชมป์โลกสมัยแรกเช่นกัน โดยเฉพาะทีมแดนกังหันที่ต้องอกหักในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง รวมถึงครั้งที่แล้วด้วย
ใน เวิลด์ คัพ ฉบับอะเมซอนครานี้ ยังมีการสร้างสถิติใหม่ขึ้นมามากมาย
มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าทีมชาติเยอรมัน ทำประตูในรอบสุดท้ายได้เป็นลูกที่ 15 เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเทียบเท่ากับ โรนัลโด้ตำนานดาวยิงแซมบ้า ต้องการอีกเพียงลูกเดียวเพื่อเป็นผู้นำเดี่ยว
ฟาริด มอนดรากอน กลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ด้วยอายุ 43 ปี กับ อีก 3 วัน ทุบสถิติของ โรเจอร์ มิลล่า ตำนานลูกหนังแห่งแคเมอรูน
อซาโมอาห์ กียาน กองหน้ากัปตันทีมกานา ยิงไป 5 ประตู ทุบสถิติของมิลล่าเป็นผู้เล่นของแอฟริกาที่ยิงประตูมากที่สุดในรอบสุดท้ายอีกเช่นกัน
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า หลุยส์ ซัวเรซ ที่โดนแบน 9 นัด จากการจุมพิต จอร์โจ้ คิเอลลินี่ จะนับเป็นสถิติของฟุตบอลโลกด้วยหรือไม่ 555
ทว่าตัวเลขที่กล่าวมา อาจไม่สลักสำคัญอะไรเลยหากพวกเขาเหล่านี้ไม่อาจพาทีมลุล่วงเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้
รอบน็อกเอาต์มาถึงแล้ว ถนนสายนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับความผิดพลาดอย่างแท้จริง
ทีมที่ดีกว่าเท่านั้นที่ได้รับการชูมือ