11 ยอดเยี่ยมรอบแรกฟุตบอลโลก2014
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ สำหรับฟุตบอลโลก 2014 รอบแรกผ่านไปเรียบร้อย ท่ามกลางความเซอร์ไพรส์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตกรอบแรกของสเปน แชมป์เก่า รวมถึงโปรตุเกส ที่มีซุป’ ตาร์ อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทัพ แถมอิตาลี และอังกฤษยังปิ๋วร่วงรอบแรกอย่างไม่มีใครคาดคิด
นอกจากนั้น ใครจะคิดว่าทีมอย่าง คอสตาริกา, กรีซ และแอลจีเรีย จะสามารถฝ่าด่านนรกผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้ง 16 ทีมผ่านเข้ารอบ มาจากผู้เล่นภายในทีม เช่นเดียวกับการวางแผนของผู้จัดการทีม
เพื่อเป็นการต้อนรับเกมรอบน็อคเอาท์ที่เริ่มขึ้นแล้ว ลองมาดูกันว่า 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมของการแข่งขันรอบแรก ในระบบ 4-3-3 มีใครกันบ้าง แม้ประเทศของผู้เล่นบางคนไม่ผ่านเข้ารอบก็ตาม ลองดูซิว่าโดนใจทุกท่านหรือไม่
อะตอม
ผู้รักษาประตู
อูโก้ โยริส (ฝรั่งเศส)
ผลงาน 2 คลีนชีต จาก 3 เกมในรอบแรก ที่ลงเฝ้าเสาให้ทีม “ตราไก่” โดยเกมเดียวที่เสียประตู เป็นการเสียให้กับสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากเกมนำขาดไปแล้ว และมาจากฟรีดิก และลูกวอลเลย์ระยะประชิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากเป็นลูกยิงอื่นๆ แทบไม่มีปัญหาสำคัญนายทวารจากสเปอร์สรายนี้ เรียกได้ว่าเพื่อนๆ สุดอุ่นใจเมื่อมีโยริสยืนเฝ้าเสา
ดีไม่แพ้กัน : ราอิส เอ็มโบลี (แอลจีเรีย), กิเยร์โม โอชัว (เม็กซิโก)
แบ็กขวา
แซร์ช โอริเย่ร์ (ไอวอรี่โคสต์)
ในทัวร์นาเมนต์ที่บราซิล ค่อนข้างจะหาแบ็กขวาที่มีผลงานโดดเด่นได้ยาก และไม่แปลกใจเลยหาก แซร์ช โอริเย่ร์กองหลังจากไอวอรี่โคสต์ จะคว้าตำแหน่งนี้ไปครอง
แบ็กขวาจากตูลูสรายนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมรับที่แข็งแกร่ง หรือเกมรุกที่จัดจ้าน และเป็นอาวุธสำคัญของทีม “ช้างส้ม” ในการเล่นงานคู่ต่อสู้
ด้วยความเร็วของโอริเย่ร์ที่สามารถเติมเกมรุก รวมไปถึงการเปิดบอลที่แม่นยำสามารถช่วยให้ไอวอรี่โคสต์พังประตูฝ่ายตรงช้ามสำเร็จ โดย 3 เกมในเวิลด์ คัพ แบ็กเนื้อหอมรายนี้ทำไปถึง 2 แอสซิสต์
ดีไม่แพกัน : คริสเตียน กัมบัว (คอสตาริกา)
เซนเตอร์ฮาล์ฟ
ราฟาเอล มาร์เกซ (เม็กซิโก)
“อายุเป็นเพียงตัวเลข” ประโยคนี้น่าจะใช้ได้ดีกับราฟาเอล มาร์เกซ กัปตันทีมชาติเม็กซิโก วัย 35 ปี ที่เวิลด์ คัพ เวอร์ชั่นแซมบ้า ถือเป็นสมัยที่สี่ของเจ้าตัวแล้ว
สามเกมในรอบแรก เม็กซิโกถือเป็นทีมที่มีเกมรับดีที่สุด ร่วมกับคอสตาริกา และเบลเยี่ยม เมื่อเสียไปประตูเดียวเท่านั้น และกำลังสำคัญของทัพ “จังโก้” ก็คือมาร์เกซ ที่ใช้ประสบการณ์และความเก๋าช่วยทีมได้ในยามคับขัน
นอกจากนั้น 3 เกมที่ผ่านมา อดีตกองหลังบาร์เซโลน่า ยังพังประตูไปแล้ว 1 เม็ด บวกกับ 1 แอสซิสต์อีกด้วย
มาริโอ เยเปส (โคลอมเบีย)
ราฟาเอล มาร์เกซ ถือว่าอายุน้อยไปเลยเมื่อเจอคู่ขาในทีมยอดเยี่ยมอย่าง มาริโอ เยเปส ที่ปีนี้อายุอานามปาเข้าไป 38 ปี
แม้เยเปสอายุค่อนข้างมาก แต่ผลงานกับทีมชาติโคลอมเบียถือว่ายอดเยี่ยม ด้วยความเก๋าประสบการณ์ ปราการหลังจากอตาลันต้าสามารถอ่านเกมคู่แข่ง และคอยดักเก็บบอลเอาไว้ได้แทบทุกจังหวะ กลบจุดอ่อนด้านความเร็วของเจ้าตัวได้มิด นอกจากนั้นลูกลางอากาศเยเปสยังจัดการได้เรียบ
ทั้งนี้ มาริโอ เยเปส ลงสนามในรอบแรกแค่ 2 นัดเท่านั้น โดยในเกมสุดท้ายซึ่งไม่มีความหมายอะไรแล้ว หลังจากโคลอมเบียผ่านฉลุยเข้ารอบไปแล้ว เจ้าตัวได้พัก แต่แค่ 2 เกมก็เพียงพอที่จะทำให้ปราการหลังวัยดึกติดทีมฟอร์มยอดเยี่ยมของรอบแรก
ดีไม่แพ้กัน : คอสตาส มาโนลาส (กรีซ), มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (เยอรมัน)
แบ็กซ้าย
ริการ์โด้ โรดริเกซ (สวิตเซอร์แลนด์)
แบ็กซ้ายจากสวิตเซอร์แลนด์รายนี้ถือว่าทำได้ดีตลอด 3 เกมในรอบแรก ไม่ว่าจะในเกมพบ เอกวาดอร์, ฝรั่งเศส หรือ ฮอนดูรัส เรียกว่าคู่ต่อสู้ไม่สามารถเจาะเกมรับทางฝั่งซ้ายของทีมจากแดนนาฬิกาได้เลย
นอกจากนั้น ในเกมรุกโรดริเกซยังสามารถช่วยเติมเกมทางริมเส้นในจังหวะสอดขึ้นไปเปิดบอลให้เพื่อนได้ต่อเนื่องพร้อมทั้งทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์
ดีไม่แพ้กัน : ดาลี่ย์ บลินด์ (ฮอลแลนด์), เมเฮอร์ดาด ปูลาดี้ (อิหร่าน)
มัดฟิลด์ตัวกลาง
ชาร์ลส์ อรานกิซ (ชิลี)
ชิลีเป็นทีมที่ผลงานในรอบแรกน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ด้วยการเล่นที่วิ่งชนิดไม่มีหมด ทั้งในเกมรุกและเกมรับ โดยเฉพาะในแผงมิดฟิลด์
กองกลางจากอินเตอร์นาซิอองนาลโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ไล่ตั้งแต่ทำลายเกมรุกคู่แข่ง ก่อนเติมขึ้นไปเล่นเกมรุก นอกจากนั้นอรารนกิซยังเปี่ยมไปด้วยความเร็ว แถมยังเล่นบอลง่ายๆ ไม่หวงบอล เช่นเดียวกับการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม
สำหรับ 3 เกมในรอบแรก อรานกิซยิงไปแล้ว 1 ประตู รวมถึงทำแอสซิสต์ ไปอีก 1 ครั้ง ในเกมชนะสเปน แค่นี้ก็บ่งบอกคุณภาพของมิดฟิลด์วัย 25 ปี ได้เป็นอย่างดี
แบลส มาตุยดี้ (ฝรั่งเศส)
ทีมชาติฝรั่งเศส ผลงานยอดเยี่ยมเหลือเกินในรอบแรก โดยเฉพาะสองเกมแรกที่เล่นกันได้สุดยอด เต็มไปด้วยเทคนิคอันแพรวพราว และสามารถทำประตูได้ทุกจังหวะ
มาตุยดี้นับเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญในเกมกลางสนามของทีม “ตราไก่” เพราะนอกจากช่วยเกมรับได้แล้ว ยังสามารถเติมเกมรุกขึ้นมาทางซ้ายได้อีกด้วย ที่สกคัญมาตุยดี้ยังเล่นด้วยความทุ่มเทอย่างหนัก ทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ของฝรั่งเศสเล่นง่ายขึ้น และทัวร์นาเมนต์นี้มาตุยดี้ยิงไปแล้ว 1 ประตู
ดีไม่แพ้กัน : มาร์เซโล่ ดิอาซ (ชิลี), โฮเซ่ ฮวน วาชเกซ (เม็กซิโก)
มิดฟิลด์ตัวรุก
ฮาแมส โรดริเกซ (โคลอมเบีย)
ในตำแหน่งนี้ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่โดดเด่นกว่าฮาเมส โรดริเกซ ของโคลอมเบียแล้ว ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมที่เต็มไปด้วยเทคนิคและทักษะที่เปี่ยมล้น นอกจากนั้นยังเล่นเพื่อส่วนรวมมากกว่าเล่นเพื่อตัวเอง ทำให้โคลอมเบียมีผลงานวิ่งฉิวทั้งที่ขาด ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าตัวสำคัญ
หากจะบอกว่า โรดริเกซคือหัวใจสำคัญในเกมรุกของโคลอมเบีย ก็คงไม่ผิดนัก และหากเจ้าตัวยังโชว์ฟอร์มได้เยี่ยม เช่นนี้ โอกาสที่โคลอามเบียจะทะลุเข้ารอบลึกๆ ก็มีสูงไม่น้อย
ดีไม่แพ้กัน : เอ็นเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์)
กองหน้า
อาร์เยน ร็อบเบน (ฮอลแลนด์)
หากกองหน้าสามคนของทีมยอดเยี่ยมจะไม่มีชื่ออาร์เยน ร็อบเบน คงถือว่าเป็นผิดมาก เพราะจากฟอร์มในสามเกมแรกที่ดาวเตะจากบาเยิร์น มิวนิค แสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการกระชากหนีเกมรับคู่ต่อสู้ หรือจังหวะการเลี้ยงบอลแหวกคู่แข่ง ไม่ว่าจะในเกมรุกหรือการเล่นเกมโต้กลับ เรียกว่าสุดยอดเหลือเกิน
ลองดูการกระชากจากระยะไกลเข้าไปส่องประตูออสเตรเลียดูก็ได้ หรือจังหวะพังประตูสเปนก็ดี ไหนจะจ่ายให้เพื่อนยิงประตูในเกมกับชิลี แต่ละจังหวะมันเยี่ยมมากแค่ไหน
คาริม เบนเซม่า (ฝรั่งเศส)
3 ประตู จาก 3 เกมในรอบแรก น่าจะเพียงพอต่อการติดทีมยอดเยี่ยมของ ดาริม เบนเซม่า กองหน้าจากเรอัล มาดริด
แม้บางเกมเบนเซม่าจะโดนโยกออกไปเล่นริมเส้นมากกว่ากองหน้าตัวกลาง แต่ก็ไม่ส่งผล เมื่อเจ้าตัวสามารถใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่งได้เกือบทุกครั้ง เช่นเดียวกับยามเล่นหน้าเป้า เบนเซม่าก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคือหนึ่งในกองหน้าระดับท็อปของโลก ที่หากแนวรับคู่ต่อสู้พลาดแม้แต่นิดเดียวโอกาสโดนยิงประตูก็มีสูงทีเดียว
ความจริงแล้วประตูรวมของเบนเซม่าควรมากกว่านี้ด้วยซ้ำ หากเขาสังเหารจุดโทษไม่พลาด รวมถึงประตูในเกมกับฮอนดูรัสไม่ถูกตัดสินว่าเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง และสุดท้ายในเกมกับสวิตเซอร์แลนด์ ที่ยิงเข้าไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสินดันเป่าหมดเวลาไปเสียก่อน
เนย์มาร์ (บราซิล)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บราซิลชุดนี้ต้องมีเนย์มาร์เป็นตัวหลัก เพราะด้วยฟอร์มการเล่นรวมถึงความมุ่งมั่น ทำให้ทัวร์นาเมนต์ในบ้านเกิดครั้งนี้กองหน้าจากบาร์เซโลน่า ดูทุ่มเทสุดตัวสุดกำลัง
และด้วยผลงาน 4 ประตู จาก 3 เกมในรอบแรกก็น่าจะเพียงพอที่จะยกให้เนย์มาร์เป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นที่ฟอร์มเยี่ยม และยิ่งทีมชาติบราซิลดูเหมือนทุกคนดจะฝากความหวังเอาไว้ที่เขานั้น คงทำให้เนย์มาร์น่าจะแบกรับความกดดันเอาไว้เต็มบ่า
ตอนนี้ฟอร์มของเนย์มาร์อาจจะยังไม่ถึงจุดพีกสุดแต่หากช่วงที่เหลือฟอร์มของเขาเข้าที่เข้าทาง บอกได้เลยว่า คู่แข่งของบราซิลเตรียมเจอฝันร้ายได้เลย
ดีไม่แพ้กัน : โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมัน), อซาโมอาห์ กียาน (กานา), ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนตินา)