“ปืนใหญ่” กับการต่อยอดความสำเร็จ
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ เป็นผลการแข่งขันที่หากจะบอกว่า พลิกความคาดหมายก็คงไม่ผิดเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายปราชัยต่ออาร์เซน่อล แบบหมดสภาพ 0-3 ในศึก คอมมิวนิตี้ ซิลด์ 2014
ใครจะไปเชื่อว่า อาร์เซน่อล ที่เคยโดน แมนฯ ซิตี้ไล่ต้อน 6-3 เมื่อซีซั่นที่แล้วจะเป็นฝ่ายเอาคืนได้แบบทบต้นทบดอกอย่างนี้
“ปืนใหญ่” ของ อาร์แซน เวอเกอร์ ได้โอกาสลงเล่นเกมชิงโล่การกุศลเป็นสมัยที่ 20 ในฐานนะแชมป์ เอฟเอ คับฤดูกาลที่แล้ว อันเป็นโทรฟี่แชมป์ใบแรกของสโมสรในรอบ 9 ปี หลังสุด
อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นถึงความหื่นกระหายในการกลับมาไล่ล่าแชมป์พร้อมทวงสถานะทีมชั้นนำของประเทศอีกครั้ง หลังทุ่มทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 65 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพโดยได้ อเล็กซิส ซานเซซ, ตาวิต ออสปิน่า, มาติเยอ เตอบูซี่และ คาลั่ม แชมเบอร์ส มาเสริมแกร่งในช่วงหน้าร้านนี้
เวนเกอร์ จัดทัพในระบบยอดฮิตในยุคนี้อย่าง 4-2-3-1 โดยยังไม่มี 3 สมาชิกทีมชาติเยอรมัน ที่ไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 อย่าง แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, เมซุต โอซิล และ ลูตัส โพตอลสกี้ ผู้รักษาประตูเป็น วอยเชียค เซสนี่ แนวรับส่ง เดอบูซี่ เป็นแบ็กขวา แชมเบอร์ส ประจำการเซนเตอร์แบ็กกัลโลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ส่วนกราบซ้ายเป็น คีแรน กิ๊บบ์ส
มิเคล อาร์เตต้า แบ แจ็ค วิลเชียร์ บัญชาเกมกลางสนาม แผงรุกเป็น 3 ประสาน อเล็กซิส, อารอน แรมซี่ย์ และซานติ กาซอร์ล่า ส่วนหอกเดี่ยวเป็น ยาย่า ซาโนโก้ ขณะที่โอลิเวอร์ ชิรูด์ เป็นเพียงสำรองเท่านั้น
ฝั่ง แมนฯ ซิตี้ เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 2 จาก 3 ปีล่าสุด กลับไม่กระตือรือร้นในตลาดนักเตะหน้าร้อนนี้ ไม่มีแข้งบิ๊กเนมถูกกระชากตัวมาร่วมทัพ บาการี่ ซาญ่า, แฟร์นานโต, วิลลี่ กาบาเยโร่ และ บรูโน่ ซูคูลินี่ คือรายชื่อที่เดินทางมาร่วมงานในถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม
การจัดทับของ มานูเอล เปเยกรีนี่ยังยึดระบบเดิมจากช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมาเนื่องจากแข้ง 6 แข้งที่ไปรับใช้ชาติใน เวิลด์ คัพที่ผ่านมาอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี, แฟร์นันดินโญ่, เซร์คิโอ อเกวโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส และ บาการี่ ซาญ่า ยังไม่พร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ไปยืมตัวมาจาก นิวยอร์ก ซิตี้ ขณะที่ ฮัลบาโรเนเกรโค้ ต้องพักอีกราว 2 เดือน
วิลลี่ กาบาเยโร่ ได้โอกาสเฝ้าประตูก่อน โจ ฮาร์ท อย่างที่ นายใหญ่ชาวซิลี โบยาต้า ส่วน กาแอล กลิซี่ โดนจับโยกไปเป็นแบ็กขวา ขณะที่ฝั่งซ้ายเป็นโควตาของอเล็กซานดาร์ โคลอรอฟ
เฆซุส นาบาส กับ ซามีสร์ นาสรี่ เดินเกมรุกทางริมเส้นขวา-ซ้าย โดยกลางสนามเป็นความรับผิดชอบระหว่าง แฟร์นานโต กับ ยาย่า ตูเร่ ส่วนแดนหน้าเป็นคู่หอก เอตินเชโก้ กับสเตฟาน โยเวติช ที่โชว์ฟอร์มน่าประทับใจในการเดินสายอุ่นเครื่องที่ผ่านมา
อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายทำเกมได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะการเดินเกมรุกทางฝั่งขวาจาก อเล็กซิส ที่ต้องบอกว่าทำให้แฟนบอล “ปืนใหญ่” เริ่มเห็นอนาคตอันสดใสจากเม็ดเงินก่อนโตที่สโมสรลงทุนไป
แนวรุกทีมชาติชิลี มีส่วนกับประตูที่ 2 หลังจ่ายบอลตัดแนวรับให้ ซาโนโก้ ชิงเหลี่ยมกับ โบย่าต้า ก่อนป้ายเข้ากลางให้ แรมซี่ย์ วิ่งเข้ามายิงผ่านมือ กาบาเยโร่ อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ดาวเตะวัย 23 ปี มีส่วนร่วมกับประตูของ “ปืนใหญ่” ถึง 26 ครั้งจาก 35 นัดล่าสุดในเกมอย่างเป็นทางการ (17 ประตู 9 แอสซิสต์)
สำหรับ ซาโนโก้ แม้จะยังคงยิ่งประตูไม่ได้ให้อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการที่นานถึง 519 นาทีไปแล้ว (14 นัด) แต่เจ้าตัวเริ่มฉายแววว่า มีส่วนกับการทำให้แนวรุก “ปืนใหญ่” วูบวาบขึ้น หลังจากได้โอกาสแบบเต็ม ๆ ในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่าน แถมโชว์ฟอร์มเทพกด 4 ประตูพาทีมถลุง เบนฟิก้า 5-1 ใน เอมิเรตส์ คัพ ด้วย
ยิ่งเกมดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเห็นว่า อาร์เซน่อล เหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ อย่างเห็นได้ชัดในเกมนี้ พลพรรค “ปืนใหญ่” แสดงความกระเหี้ยนกระหือรือและทำผลงานกันได้อย่างเฉียบขาดก่อนมาได้ประตูปิดท้ายจาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูต์
สำหรับ “เรือใบสีฟ้า” อาจจะมองว่าเป็นเพียงความพ่ายแพ้นัดหนึ่ง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมรบเลย
บรรดาแข้งที่ไม่ได้ลงสนามต่างเป็ฯตัวหลักทั้งนั้นโดยเฉพาะในแนวรับที่ไร้เงา แว็งซ็องต์ ก็องปานี และ ปาโบลซาบาเลต้า เนื่องจาก โบยาต้า กับ กลิซี่ ที่ต้องไปเป็นแบ็กขวาจำเป็น ต่างทำตัวเป็นจุดอ่อนให้เจาะกันง่ายๆ เลย
อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน ชัยชนะครั้งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จของ อาร์เซน่อล หลังได้แชมป์ เอฟเอ คัพไปเมื่อราว 85 วันก่อนหน้านี้ หลังจากเฝ้ารอสัมผัสถ้วยแชมป์อย่างยาวนานถึง 3,283 วัน
พลพรรค “ปืนใหญ่” พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่า พร้อมแล้วสำหรับการคั่วแชมป์พรีเมียร์ลีก แถมขุมกำลังที่มีอยู่ในเวลานี้ก็ถือว่า สมบูรณ์กว่าเดิมเมื่อเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาหลายคนแถมคุณภาพถือว่าไม่ธรรมดากันทั้งนั้น ทำให้ขนาดทีมเล็กที่เคยเป็นปัญหายามไล่ล่าแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้ายน่าจะหมดไปแบบหายห่วง
การขับเคี่ยวสู่บัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-15 น่าจะสนุกกว่าที่เห็นในซีซั่นก่อน แมนฯ ซิตี้ ต้องรักษาความมุ่งมั่นเอไว้ให้ได้ในการป้องกันแชมป์, ลิเวอร์พูล เดินหน้า เสริมแกร่งไม่หยุดสำหรับเป้าหมายที่สูงกว่ารองแชมป์, เชลซีกวาดแข้งระดับโลกมาร่วมทีมรวมถึงต้องรับการกลับมาของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินทางสู่การพจญภัยครั้งใหม่ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัลป์
ส่วน อาร์เซน่อล ต้องแก้ไขปัญหาเดิม ๆ คือเรื่องการยืนระยะให้ได้ ปีก่อนพวกเขารั้งจ่าฝูงนานที่สุดถึง 128 วัน แต่กลับต้องมาเสียบัลลังก์ในช่วงครั้งซีซั่นหลัง หากจัดการปัญหานี้ได้ เชื่อเลยว่า โล่การกุศล คอมมิวนิตรี้ ซิลด์ จะไม่ใช้แชมป์แรกและใบสุดท้ายของพวกเขาในฤดูกาลที่จะถึงนี้แน่นอน และสำหรับทีมทำเงินแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์แล้ว อาร์เซน่อลก็ถือเป็นทีมที่น่าจับตาด้วยเช่นกันครับ