คืนความสุขให้เหล่าบิ๊กทีม
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ สำหรับเกมสุดท้ายก่อนเบรกทีมชาติ “สิงโตน้ำเงินคราม” ขวัญใจนักแทงบอลบ้านเราก็ยังคำรามสมราคาต็งหนึ่งด้วยชัยชนะเหนืออริสำคัญอย่างอาร์เซน่อล ในศึกลอนดอนดาร์บี้ และเป็นอีกครั้งที่ โซเซ่ มูรินโญ่ ได้รับการชูมือเหนือ อาร์เซน่อลเวนเกอร์
สองกุนซือมากฝีมือถือเป็นอีกหนึ่งไม้เบื่อไม้เมา ที่สำคัญ “เดอะ สเปเชียล วัน” ยังเป็นฝ่ายข่มนายใหญ่เฟร้นซ์มาโดยตลอด ด้วยสถิติไร้พ่ายในการดวลที่ผ่านมา และเกมล่าสุดเชลซีเป็นฝ่ายได้รับการชูมืออีกครั้ง
แม้อาร์เซน่อลทำได้ดีกว่าคราวโดนพ่ายเยิน 0-6 ในนัดที่ 1,000 ของ เวนเกอร์ กระนั้นพวกเขาไม่รอดสันดอนความแข็งแกร่งของ เอแด็น อาชาร์ ฉีกแนวรับปืนโตขาดวิ่นและนั่นเป็นความแตกต่างของสองทีม จุดโทษขึ้นนำของปีกเบลเยียมพลิกโฉมหน้าของเกมอย่างแท้จริง
ตอกย้ำความเจ็บปวดสำหรับแฟนกันเนอร์ส หลังทนเห็น เลส ฟาเบรกาส เปิดบอลอย่างเหมาะเหม็งให้ ดีเอโก้คอสต้า เข้าไปกระดกผ่านเชลนี่เป็นประตูปิดกล่อง สองแข้งอิมพอร์ตจากลา ลีกา สเปน ช่วยยกระดับเชลซีอย่างชัดเจนในฤดูกาลนี้
นอกเหนือจากความพ่ายแพ้ในสนาม เวนเกอร์ยังพ่ายอย่างยับเยินต่อมูรินโญ่ จากการย่างสามขุนเข้าผลักอกกุนซือฝอยทอง หลังเห็นว่าผู้เล่นคู่แข่งสมควรโดนใบแดงไล่ออกเมื่อเสียบหนัก แน่นอน ทั้งหมดอยู่ในสายตาและดุลยพินิจของเอฟเอ
“พวกเขาควรเหลือแค่ 8 คนในสนาม” เสียงจากผู้ชนะ ขณะที่คนแพ้สวนกลับทันควัน “ถ้าทีมข้าเหลือ 8 พวกเอ็งก็ไม่ต่างกันหรอก” อารมณ์คุกรุ่นหลังผ่าน 90 นาทีบนสังเวียน
ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้อาร์เซน่อลเสียสถิติไร้พ่ายในลีก และยังเก็บได้แค่ 10 แต้มจาก 7 เกมแรก และมันเป็นการออกสตาร์ตที่แย่เป็นอันดับ 2 ในยุคของเวนเกอร์
สิงห์บูลส์แรงดีไม่มีตกแบบนี้ ผู้ตามอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ย่อมเหนือยเป็นธรรมดา เกมเยือนวิลล่า พาร์ค ไม่หมูแม้แต่น้อย แม้เจ้าถิ่นพ่ายกระเจิงในการดวลทีมใหญ่ก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ทีมของ พอล แลมเบิร์ต รับมือแชมป์เก่าได้อย่างดี
ทว่าคำว่า “ดี” ไม่มีค่าหากไม่สิ้นเสียงระฆัง 7 นาทีสุดท้าย ทำนบของวิลล่าแตกกระเจิงปลายสตั๊ดของยาย่า ตูเร่ ทำลายความหวังลุ้นแต้มของเจ้าถิ่นดับสูญ ประตูตอกฝาโลงของ เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” เพียงส่งให้มุมฟ้าแห่งแมนเซสเตอร์หายใจทั่วท้อง
นี่คือหนึ่งในคุณสมบัติของทีมลุ้นแชมป์ ต่อให้เล่นห่วยแค่ไหน ขอให้ได้ผลลัพธ์ติดมือ เล่นแย่ 1 แต้ม เล่นดี 3 คะแนนเต็ม ซึ่งแมนฯ ซิตี้ แสดงให้เห็นบ่อย ๆ
คงเร็วเกินไปหากบอกว่า แชมป์ฤดูกาลนี้ไม่เชลซีก็ แมนฯซิตี้ เมื่อบรรดาทีมยักษ์เริ่มตื่นจากภวังค์กันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดีวันดีคืน หลังสตาร์หน้าใหม่กลั่นผลงานคุณภาพอีกแล้วครับท่าน
อังเดล ดิ มาเรีย กลายเป็นส่วนหนึ่งของยูไนเต็ดอย่างรวดเร็ว และสะท้อนถึงฝีเท้าระดับโลก เช่นเดียวกัน ราดาเมล ฟัลเกา หัวหอกโคลอมเบียที่เบิกร่องประตูแรกในคราบ “เร้ด เดวิลส์” ด้วยการชาร์จตามสไตล์กองหน้าจอมปิดบัญชี
แนวรุกปีศาจแดงไม่เป็นสองรองใคร ชื่อชั้นอย่าง “เอล ดิเกร้” รวมถึงตัวเก่าทั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ เวย์น รูนี่ย์ ทำให้งานของ หลุยส์ ฟาน กัล น่าอิจฉา อย่างไรก็ดีแนวรับของทีมยังต้องตกแต่ง จากปัญหาเจ็บที่โบกมือทักทายไม่หยุดหย่อน จนต้องงัดดาวรุ่งอย่าง แพทริค แม็คแนร์ ขึ้นมาเล่น
กระนั้นพระเอกตัวจริงในเกมเฉือนเอฟเวอร์ตันต้องยกให้ ดาบิด เด เคอา นายทวารร่างบางชาวสเปนิชที่โชว์ลีลาเซฟอุตลุด ไม่ว่าจะเป็นจุดโทษ เลห์ตัน เบนส์ หรือการปัดลูกยิงท้ายเกมของ ไบรอัน โอเบียโด้ ทั้งหมดล้วนเข้าตากรรมการเป็นอย่างยิ่ง
ฟากฟ้าที่แมนเชสเตอร์สดใส ไม่ต่างกับนภาเหนือถิ่นแอนฟิลด์ ลิเวิอร์พูลต้อนรับเวสต์บรอมวิชภายใต้ความอึดอัด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จัดการหั่น มาริโอ บาโลเตลลี่ หลุดโผ 11 ตัวจริง และให้โอกาส ริคกี้ แลมเบิร์ต ลงปล่อยของ
ทว่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาริโอหรือหนุ่มริคกี้ หน้าเป้าหงส์ไร้ความอันตรายโดยสิ้นเชิง ขณะที่ไอ้หนูตัวความหวังอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ไม่ทันไรบ่นกระปอดกระแปด “ผมเหนื่อย” และยังทำผลงานไม่ต่อเนื่องอย่างที่หวัง
ในวันที่ยากลำบาก กลายเป็น อดัม ลัลลาน่า ที่เริ่มฉายแววเด่น หลังกระทุ้งประตูแรกในชุดแดงเพลิง และโชว์ฟอร์มอย่างเร่าร้อน ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดดเด่นด้วยการทำ 1 แอสซิสต์และ 1 ประตูชัยพาทีมเข้าป้าย
ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” หยุดความร้อนแรงของ “นักบุญ” ด้วยชัยชนะ 1-0 จากฝีเท้า คริสเตียน เอริคเซ่น เรียกความหมั่นใจได้มากโข ยุติสถิติไม่ชนะติดต่อกัน 4 เกมซ้อนในลีกได้สำเร็จ
ส่วนเกมสุดระทึกประจำสัปดาห์ เบียดกันสูสีระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ของ อลัน พาร์ดิว ที่ตายยากหลังตามตีเสมอสวอนซี 2-2 จากฮีโร่คนเดิมอย่าง ปาปิสส์ ซิสเซ่ กับอีกเกมระหว่างสองทีมน้องใหม่ เบิร์นลี่ย์ บุกตีเสมอเลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 6!
หลังเบรกทีมชาติ ฟุตบอลสุดเร้ากลับมาบรรเลงเพลงแข้งอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยเกมใหญ่อยู่ที่แมตซ์หัวค่ำวันเสาร์ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์นี่คือหนึ่งบททดสอบความแข็งแกร่งของแชมป์