แข้งดีเด่นแชมเปี้ยนส์ ลีก 2014/15
สวัสดีครับเพื่อนๆนักแทงบอลหรือแทงบอลออนไลน์ทุกๆคนครับ ก็ปิดฉากกันไปแล้วสำหรับฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2014/15 บาร์เซโลน่า เอาชนะ ยูเวนตุส 3 – 1 ในเกมชิงชนะเลิศ ประกาศศักดาเป็นเจ้ายุโรปสมัย 5 พร้อมกับทำทริปเปิลแชมป์ได้สำเร็จ
หลังจากการต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน มีแข้งมากมายที่โชว์ฟอร์มได้เตะตากรรมการ ขณะเดียวกัน ก็มีแข้งบางรายที่ทำงานเป็นคนปิดทองหลังพระ สร้างประโยชน์ให้กับทีมมากมายแต่กลับไม่มีใครสังเกต
วันนี้เว็บไซต์ฮูว์สกอร์ได้จัดทีมยอดเยี่ยมประจำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ตามคะแนนความสามารถที่แต่ละนักเตะได้รับ 11 นักเตะเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง ไปติดตามกันเลย…
ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เชลซี
แม้เชลซีจะจอดป้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่าทีมของ โซเซ่ มูรินโญ่ ก็ยังได้ชื่อว่าไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ หลังโดนปารีส แซงต์ – แชร์กแมง เขี่ยตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน นักเตะที่มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จในปีนี้คือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จอมหนึบดาวรุ่งชาวเบลเยียม เห็นได้จากคะแนนความสามารถ 7.21 ซึ่งมากกว่านายทวารคนอื่นๆ ของทัวร์นาเมนต์ มากกว่านั้น ยังมีค่าเฉลี่ยตัดบอลจากริมเส้นได้ 2.4 ครั้งต่อเกม มีเพียง โรเบร์โต้ นายทวารจากโอลิมเปียกอส (2.5) ที่ทำได้ดีกว่าในบรรดาจอมหนึบที่ลงเล่นมากกว่า 1 เกม
ดานี่ อัลเวส – บาร์เซโลน่า
กองหลังชาวบราซิเลียนเป็นแบ็กขวาที่ฟอร์มดีที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ หลายคนมองว่าอัลเวสได้ผ่านจุดสูงสุดของชีวิตไปแล้ว แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคนเหล่านั้นคิดผิด พร้อมกับจัดการแอสซิสต์ไป 4 ครั้งในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ มีเพียง ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสต้า สองเพื่อนร่วมทีม และ เอคเตอร์ เอร์เรร่า ของปอร์โต้ (5) เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า แถมยังมีจุดเด่นเรื่องการผ่านบอล เมื่อทำไป 73.4 ต่อเกม มากกว่านักเตะบาร์เซโลน่าทุกคน และมากที่สุดติด 10 อันดับแรกด้วย
เอเมียร์ สปาอิช – เลเวอร์คูเซ่น
เลเวอร์คูเซ่นโชคร้ายที่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากการพ่ายจุดโทษต่อแอตเลติโก มาดริด ทั้งๆ ที่มีกองหลังจอมแกร่งอย่าง เอเมียร์ สปาอิช คอยคุมแนวรับให้ มีชายเวล เอ็มบองบา มังกูลู ของอันเดอร์เลชท์ (8.2) คนเดียวเท่านั้นที่เคลียร์บอลต่อเกมได้มากกว่าสปาฮิซ (8) และมี อิซัค เธลิน (5.2) อดีตกองหน้ามัลโม่คนเดียวที่แย่งโขกบอลกลางอากาศได้ดีกว่ากองหลังรายนี้ (5) เขาได้รับคัดเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตซ์ จากเว็บไซต์ฮูว์สกอร์มากถึง 3 ครั้ง มีเพียง ลิโอเนล เมสซี่ คนเดียวเท่านั้นทำได้ดีกว่า (9)
ดีเอโก้ โกดิน – แอตเลติโก มาดริด
แอตเลติโก มาดริด ไม่สามารถต้ายภัยจากเรอัล มาดริด ได้อีกครั้งมรซีซั่นนี้ หลังจากที่โดนเขี่ยตกรอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม “ตราหมี” มีแนวรับที่สุดแกร่ง นำโดย ดีเอโก้ โกดิน ที่เคลียร์บอลได้มากถึง 7.3 ครั้งต่อเกม และแย่งบอลกลางอากาศได้มากถึง 72.5 เปอร์เซ็นต์จากการขึ้นแย่งทั้งหมด 51 ครั้ง
อเล็กซ์ ซานโดร – ปอร์โต้
กองหลังบราซิเลียนโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในซีซั่นแรกที่จูเลน โลเปเตกี พอเอฟซี ปอร์โต้ ลงเล่นในแชมเปี้ยส์ ลีก ทีมดังจากโปรตุเกสคงจะเละกว่าเดิมหากไม่มี อเล็กซ์ ซานโดร ช่วยงานในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง ที่พ่ายต่อบาเยิร์น มิวนิค แบ้กขวาคนดังกล่าวตัดบอลได้มากกว่านักเตะคนอื่นๆ (39) และจากการเข้าแท็กเกิลรวมกับตัดบอลรวมกันไปถึง 76 ครั้ง นับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในการแข่งขันปีนี้ จนได้รับคะแนนความสามารถไป 7.87
ลิโอเนล เมสซี่ – บาร์เซโลน่า
จากคะแนนความสามารถเฉลี่ยเกมละ 8.90 คะแนน ลิโอเนล เมสซี่ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้เป้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ไม่มีนักเตะคนใดยิงประตู (10) หรือแอสซิสต์ (5) ได้มากกว่าเมสซี่อีกแล้วในฤดูกาลนี้ และเขาก็ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ จากฮูว์สกอร์ไปถึง 9 จาก 13 เกม มากกว่านั้น แข้งอาร์เจนไตน์ยังกระชากบอลหนีคู่แข่ง (92) และผ่านบอลสำคัญ (36) ได้มากกว่าใครๆ ในซีซั่นนี้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังแย่งบอลคู่แข่งในพื้นที่สุดท้ายได้มากที่สุดอีกด้วย (12)
กาเซมิโร่ – ปอร์โต้
กองกลางตัวยืมจากเรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นอีกหนึ่งสตาร์เด่นในฤดูกาลนี้ จากการได้รับคะแนนความสามารถ 8.16 รับเป็นสถิติดีที่สุดอันดับ 4 ในการแข่งขัน กาเซมิโร่ (75) มีอัตราการเข้าปะทะรวมกับตัดบอลได้มากที่สุดเป้นอันดับ 2 เป็นรองเพียง อเล็กซ์ ซานโดร กองหลังเพื่อนร่วมทีม เท่านั้น (76) ขณะเดียวกัน การเข้าปะทะเฉลี่ยเกมละ 5.6 ครั้ง มีเพียง เนมานย่า มาติช ชอง เชลซี คนเดียวที่ทำได้ดีกว่า (5.8) แสดงให้เห็นว่ามิดฟิลด์วัย 23 ปีรายนี้สำคัญกับปอร์โต้เพียงใด
เนมานย่า มาติช – เชลซี
เนมานย่า มาติช สถาปนาตัวเองเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลปัจจุบัน จากการเข้าปะทะเฉลี่ยเกมละ 5.8 นับเป็นสถิติที่มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในรายการนี้ และมีเพียง โทนี่ โครส (56) และ ชาบี อลอนโซ่ (55) เพียงสองคนเท่านั้นที่ได้บอลในพื้นที่ที่ 3 ของสนามมากกว่ามาติช (49) มิดฟิลด์ชาวเซิร์บเป็นกำลังสำคัญที่พาเชลซีไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย และเป้นแข้งที่ฟอร์มมีมาตรฐานที่สุดในทัพวิงห์บลูส์ฤดูกาลนี้
เอแด็น อาซาร์ – เชลซี
เอแด็น อาซาร์ เบียดเอาชนะทั้ง เนย์มาร์ เข้ามาอยู่ในทีมยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ มิดฟิลด์ เบลเยียมมีอัตราเฉลี่ยกระชากบอลหนีคู่แข่ง (7.3) และโดนทำฟาวล์มากกว่าใครๆ (4.7) และจากสถิติกระชากบอลหนีคู่แข่งสำเร็จมากถึง 15 ครั้งในเกมกับมาริบอร์ นับเป็นสถิติต่อเกมที่มากที่สุดในฤดูกาลนี้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – เรอัล มาดริด
ไม่มีนักเตะคนใดทำประตูได้มากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ (10) และมีค่าเฉลี่ยสับไกต่อเกม (5.9) มากกว่าแข้งคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามนั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเข้าไปป้องกันแชมป์ รวมถึงลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 11 หลังจากตกรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือยูเวนตุส
หลุยส์ ซัวเรซ – บาร์เซโลน่า
หลุยส์ ซัวเรซ ยิงไป 7 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้เราลืมไปเลยว่าเขาเพิ่งจะกลับมาลงสนามได้เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วหลังโดนโทษแบนยาวจากบอลโลกเล่นงานในซีซั่นแรกภายใต้สีเสื้ออาซูลกราน่า ซัวเรซได้กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกสามประสาน MSN มีค่าเฉลี่ยยิงเกมละ 3.8 ครั้ง, ผ่านบอลสำคัญ 1 ครั้ง และกระชากบอลหนีคู่แข่งสำเร็จอีกเกมละ 1.7 ครั้ง ได้รับเรตติ้งจากฮูว์สกอร์ไป 7.89 คะแนน