การดูราคาบอล สำหรับมือใหม่คร๊าบบ
สวัสดีครับเพื่อนๆนักพนันบอลหรือแทงบอลสำหรับมือเก่าๆอ่านข้ามบทความอันนี้ไปได้เลยครับเพราะว่าสำหรับเพื่อนๆนักพนันบอลหรือแทงบอลมือใหม่เท่านั้นครับ เพื่อนๆหลายๆคนคงเลยได้เห็นในหนังสือบอลหลายๆเล่มมีตัวอักษรชุดหนึ่งปรากฏอยู่หลังโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล เช่น ครึ่งลูก ครึ่งควบลูกลบสิบ ป.ป.ฯลฯ
แล้วมันคืออะไรฟระ~!
มันคือราคาต่อรองฟุตบอล หรือราคาบอลนั่นเอง
โต๊ะบอลโดยปกติจะมีการตั้งราคาทีมที่มีเพื่อนๆสมบัติดีกว่า (ตัวผู้เล่น ฟอร์ม สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม สนาม ฯลฯ)จะต่อให้ทีมรองแล้วนักพนันบอลหรือแทงบอลจะต้องไปเลือกว่าจะผู้ฝ่ายต่อหรือว่าอยู่ฝ่ายรอง ซึ่งในแต่ละคู่จะต่อรองเท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้างก็แล้วแต่ว่าทีมอะไรเจอกับทีมอะไร เป็นที่มาของราคาต่อรองบอลหรือราคาบอลนั่นเองครับ
ราคาบอลจะแบ่งเป็นสองส่วน
1. ต่อลูก เช่น ป.ป.,ครึ่งลูก,ครึ่งควบลูก,เสมอ เป็นต้น
2. ต่อเงิน(ค่าน้ำจิ้ม) เช่น -10,+10,-5 เป็นต้น
ราคาบอลต่อลูกมี 3 แบบดังนี้
1. เสมอ อันนี้ง่ายๆเลยครับไม่ต้องงง มันก็คือไม่มีใครต่อให้ใคร ผลเตะกันออกมายังไงก็คิดได้เสียกันตามนั้นเลยครับ
2. แบบเต็ม อย่างเช่น ครึ่งลูก หนึ่งลูก ลูกครึ่ง สองลูก ผลเตะออกมายังไงก็เอาราคาที่ต่อไปรวมด้วยแล้วก็คิดว่าฝ่ายใดแต้มมากกว่าก็ชนะ เช่น ลิเวอร์พูลต่อครึ่งลูกให้แมนฯยูฯ ผลออกมาเสมอ 1-1 แต่ลิเวอร์พูลต่อให้ครึ่งลูก ก็จะกลายเป็น 1-1.5 ฝ่ายที่รองแมนยูก็จะชนะเพราะลิเวอร์พูลต่อให้ครึ่งลูก หรือ เชลซีต่อหนึ่งลูกให้ลิเวอร์พูล ผลออกมาเชลซีชนะ 2-1 แต่เชลซีต่อให้ 1 ลูก ก็จะกลายเป็น 2-2 ก็จะเจ๊ากันไปไม่มีใครได้เสีย ยกตัวอย่างแบบนี้เพื่อนๆมือใหม่คงไม่งงนะครับ
3. แบบควบ อันนี้ยากขึ้นมานิดหน่อยครับ เช่น ครึ่งควบลูก ลูกควบลูกครึ่ง ป.ป.(ย่อมาจาก แปะปั๊ว-เสมอควบครึ่ง) ในกรณีแบบนี้จะเหมือนกันเราเอาเงินที่เล่นแบบเป็นสองส่วนแล้วพนันบอลหรือแทงบอลสองราคา เช่น ลิเวอร์พูลต่อ ป.ป. (เสมอควบครึ่ง)ให้แมนยู เราเลือกต่อลิเวอร์พูล100บาท มันจะเหมือนกับเราเอาเงิน 100 บาทมาแบ่งครึ่งแล้วเลือกเล่น ที่ราคาเสมอ 50 บาท และราคาครึ่งลูก 50 บาท(เวลาเล่นจะไม่มีใครเอาเงินมาแบ่งเล่นถ้าเล่น 100 บาทก็คือ 100 บาทแต่จะเข้าใจกันว่าคือเล่นในราคา ป.ป. 100 บาท ในตัวอย่างอธิบายตามหลักการเพื่อให้เข้าใจแบบลึกซึ้ง)
100 บาท (เสมอควบครึ่ง-ป.ป.)-50บาท(ราคาเสมอ)
-50บาท(ราคาครึ่งลูก)
ผลที่ออกมาถ้าลิเวอร์พูลเสมอกับแมนยู เราก็จะเสีย 50 บาทเพราะ 50 บาทแรกเล่นที่ราคาเสมอก็จะออกมาเจ๊า แต่อีก 50 บาทเล่นที่ราคาครึ่งลูกเราจะเสียก็คือเราจะเสียครึ่งหนึ่งของที่เราเล่น แต่ถ้าเรารองแมนยู 50 บาทแรกเราจะเจ๊า แต่อีก 50 บาทเราจะได้ก็คือเราจะได้ครึ่งหนึ่งของที่เราเล่นแต่ถ้าลิเวอร์พูลชนะฝ่ายต่อจะได้ทั้งสองส่วนก็คือได้เต็ม ส่วนฝ่ายรองก็จะเสียทั้งสองส่วนก็คือเสียเต็ม
อีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น เชลซีต่อครึ่งควบลูกให้แมนยู ถ้าเราเล่นเชลซี 100 บาท จะเหมือนเราเล่นที่ราคาครึ่งลูก 50 บาทและในราคาหนึ่งลูก 50 บาท ผลออกมาเชลซีชนะ1-0 เราจะได้ในส่วนที่เล่นครึ่งลูก 50 บาท และในส่วนที่เล่นหนึ่งลูกจะเจ๊า ก็คือเราจะได้ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเรารองแมนยู 50 บาทแรกที่เรารองในราคาครึ่งลูกเราจะเสีย แต่อีกส่วนที่เรารองในราคาหนึ่งลูกจะเจ๊า ก็คือเราจะเสียครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าผลออกมาเสมอฝ่ายต่อก็จะเสียทั้งสองส่วนก็คือเสียเต็ม ฝ่ายรองก็จะได้เต็ม แต่ถ้าชนะมากกว่า 1 ลูก เช่นชนะ 2-0 ฝ่ายต่อก็จะได้เต็มแต่ฝ่ายรองจะเสียเต็ม
โต๊ะบอลเปิดมาจะมีรายได้จากไหน ??
คำตอบก็คือในการเล่นเราเล่น 100 บาทเราจะไม่ได้เต็มทั้ง 100 บาทแต่ว่าเราจะต้องเสียค่าน้ำจิ้มให้กับโต๊ะพนัน แต่ถ้าเราเสียเราจะเสียเต็ม ราคาต่อรองแบบต่อลูกจะต้องมีราคาต่อเงินตามท้ายด้วย เช่น ครึ่งลูกลบสิบ ตรงลบสิบคือราคาต่อเงิน ราคาต่อเงินมี 4 แบบดังนี้
1. เสมอ หรือ ขาว ในกรณีต้องบอกด้วยว่าเสมอทีมใด เช่นเสมอเชลซี หรือ เชลซีต่อขาว ใครเล่นเชลซี ถ้าได้จะคิดเงินในอัตราแทง 5 ได้ 4 ส่วนทีมรองจะได้เต็ม แทง 5 ได้ 5 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วทีมต่อยังได้เปรียบอยู่แต่ว่าไม่มากนัก
2.-10 (ลบสิบ) ทีมที่ต่อและรองจะคิดเงินในอัตราส่วนเท่ากันคือ แทง 5 ได้ 4.5 หรือแทง 10 ได้ 9 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วสองทีมไม่ค่อยได้เปรียบเสียเปรียบกัน
3.+10(บวกสิบ)ทีมต่อจะคิดเงินในอัตราส่วน แทง 11 ได้ 8 ส่วนทีมรองจะคิดเงินในอัตราส่วน แทง 9 ได้ 10 (เช่นรองแมนยูในราคา +10 ไว้ 100 บาท แต่เวลาเสียเราจะเสียแค่ 90 บาท) ใช้ในกรณีที่สองทีมฟอร์มต่างกันมากๆ ต่อลูกแล้วก็ยังต่างกันมากอยู่
4.-5(ลบห้า) ฝ่ายต่อจะคิดในอ้ตราส่วน แทง 5 ได้ 5 ฝ่ายรองจะคิดในอัตราส่วน แทง 5 ได้ 4 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วฝ่ายรองดูได้เปรียบนิดๆ
ในปัจจุบันการพนันบอลหรือแทงบอลมีหลายรูปแบบ เช่น ทายคนทำประตูแรก ทายผลการแข่งขัน ทายสกอร์สูงต่ำ ทายผลครึ่งแรก ครึ่งหลัง ทายคนทำประตูสุดท้าย ฯลฯ แต่ในประเทศไทยที่นิยมกันมีอยู่สองแบบคือ
รูปแบบการพนันบอลหรือแทงบอลในไทย
1. บอลเต็ง หรือ บอลเดี่ยว คือเลือกเล่นเป็นคู่ คู่ละเท่าไรก็ว่ากันไป คิดเงินเป็นคู่ตามคู่ที่เราเล่น เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนมาก
2. บอลสเตป หรือ บอลชุด คือเลือกเล่นเป็นชุด ส่วนมากจะกำหนดไว้ว่าต้อง 3 คู่ขึ้นไป ทุกทีมที่เลือกไว้จะต้องไม่มีทีมใดเสีย เช่น มีบอลเตะกัน 10 คู่ เลือกทีมที่จะชนะมา 4 คู่ ผลที่ออกมาทีมที่เลือกไว้ต้องไม่มีทีมใดที่เสียถึงจะได้เงิน เวลาคิดเงินก็จะเอาเงินที่เราเล่นมาคูณกับราคาของแต่ละคู่ ถ้าเราเสียคู่ไหนเต็มตัวคูณก็จะเป็นศูนย์ทำให้คูณออกมาได้ศูนย์ก็คือไม่ได้เงินนั่นเอง ถ้าเราเล่นไว้ 4 คู่ คู่ 1 ได้เต็มราคา -10 แสดงว่าตัวคูณ 1.9 (ต้นทุน 1 ได้ 0.9 รวม 1.9 วิธีคิดราคาต่อเงินย้อนไปดูข้างบน) คู่ที่ 2 ต่อได้เต็มราคา-5 ตัวคูณ 2.0 (ต้นทุน 1 ได้ 1 รวม 2.0) คู่ที่ 3 รองได้เต็มราคา -5 ตัวคูณ 1.8 ( ต้นทุน 1 ได้ 0.8 ) คู่ที่ 4 ต่อได้เต็มราคาเสมอ ตัวคูณ 1.8 ( ต้นทุน 1 ได้ 0.8 ) เล่นไป 100 บาท เราจะได้เงินคืนทั้งสิ้น
100×1.9×2.0x1.8×1.8=615.6=>615 บาท แต่ถ้าคู่ใดเสียครึ่งหนึ่งตัวคูณก็จะกลายเป็น 0.5 (เล่น 1 ได้คืนครึ่งเดียวคือ 0.5) เหมาะสำหรับผู้ที่ทุนน้อยแต่ต้องการผลตอบแทนสูงและทายผลบอลแม่น
หวังว่าเพื่อนๆมือใหม่คงจะได้ทราบข้อมูลพื้นฐานในการพนันบอลหรือแทงบอลกันไม่มากก็น้ัอยนะครับ สุดท้ายนี้ขอให้พนันบอลหรือแทงบอลอย่างมีสตินะครับ การพนันไม่ทำให้ใครรวยนะครับ เล่นแต่พองามกันนะคร๊าบบบ